ยิ่งเรารู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เราสื่อสารได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น ใช้คำได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น แต่ปัญหาก็คือ คำศัพท์ภาษาอังกฤษนั้นมีเยอะแยะเต็มไปหมด จนเราไม่รู้ว่าจะท่องยังไงดี บางคำแปลตั้งหลายครั้งก็ยังจำไม่ได้ซักที วันนี้เราจะมาแชร์เทคนิคการเพิ่มคลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษของเพื่อนๆกันนะครับ
1. แปะ Post-it ของที่เราต้องการรู้คำศัพท์ ศึกษาคำศัพท์ใกล้ตัว
สิ่งของใกล้ตัวคำไหนไม่รู้หาทันที คำนี้เขาเรียกว่าอะไร ตั้งแต่ตื่นตอนเช้าจนถึงขับรถไปทำงานด้วยภาษาอังกฤษหรือไปเรียน เราเจออะไรก็แล้วแต่ ก็หาว่าคำนี้ภาษาอังกฤษจะเรียกว่าอะไรนะ คำไหนไม่รู้ก็หาในกูเกิ้ล พอได้คำนามเยอะๆ ทีนี้ก็เริ่มมาเก็บกริยาที่เราใช้ในชีวิตประวันเช่น เราสังเกตแมวกำลังปีนต้นไม้ เราก็หาภาษาอังกฤษ สังเกตใช้คำว่าอะไรนะ ปีนใช้คำว่าอะไรนะ เราก็จะมีคำศัพท์เพิ่มขึ้นไปในทุกๆวัน แล้วก็เป็นคำศัพท์ที่เราใช้จริงในชีวิตประจำวันด้วย
2. หาอ่านข่าวและข้อความต่างๆในภาษาอังกฤษ
เช่น อาจจะถูกใจเพจที่ใช้ภาษาอังกฤษเอาไว้ ดูว่าเขาใช้คำว่าอะไร คำไหนที่ไม่รู้ก็ลองแปลดู อันนี้ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มคลังคำศัพท์ได้เหมือนกันนะครับ แต่ก่อนที่จะแปลเราอาจจะลองทดสอบอ่านประโยคโดยรวมดูก่อนนะครับ คำไหนที่ไม่รู้เราลองเดาดูก่อน เสร็จแล้วค่อยไปแปล ถ้าเราเริ่มเดาถูกแสดงว่าเริ่มมีการพัฒนาไปในทางที่ดีแล้วครับ คือสามารถทายความหมายคำที่ไม่รู้ได้ เพราะในชีวิตจริง เราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกคำก็ได้ แต่ที่สำคัญคือ เวลาที่เราไม่รู้คำไหนแล้วเราสามารถทายความหมายแล้วก็สื่อสารได้ อันนี้ก็ถือว่าได้พัฒนาไปอีกระดับแล้วเช่นกันครับ
3. ลองแต่งประโยคจากคำศัพท์ที่ไม่รู้
เพื่อให้จำแม่นขึ้น เวลาที่เราเจอคำศัพท์ที่เราไม่รู้ เราอาจลองแต่งประโยคดู โดยยกตัวอย่างในสถานการณ์อื่นๆ เพราะจากค่าเฉลี่ยของการจำคำศัพท์ ในคำบางคำเราอาจต้องเปิดดิกชันนารีถึง 5 ครั้ง เพื่อที่จะจำคำคำนั้นได้ แต่ถ้าเราลองแต่งประโยคเข้าไปด้วย เราอาจลดลงมา เหลือไม่กี่ครั้ง หรือจำเป็นไอเดียหรือรูปภาพก็อาจช่วยให้จำได้ไวขึ้นและง่ายขึ้นเยอะเลยครับ หรือจะนำไปใช้กับการสัมภาษณ์งานก็ได้
Engduo Thailand
ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย
4. หาดูหนัง ฟังเพลงภาษาอังกฤษ
อันนี้ก็คืออีกวิธีที่ช่วยเพิ่มคำศัพท์ได้ดีมากๆเลยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟังเพลง แต่อย่าแปลก่อนฟังนะครับ พยายามลองฟังก่อนว่าเขาร้องว่าอะไรบ้าง จะได้ฝึกเรื่องการฟังไปด้วย เพราะทักษะด้านการฟังนี่เป็นทักษะที่ฝึกยากที่สุด และต้องใช้เวลาพอสมควรเลยครับ พอเราเริ่มฟังเป็นคำเริ่มจับประโยคได้แล้วทีนี้เราค่อยมาดูเนื้อว่าคำที่ได้ยินถูกต้องหรือไม่ ถึงไม่รู้ความหมายไม่เป็นไรนะครับ แต่อย่างน้อย ต้องรู้ว่าเป็นคำๆนี้ สะกดแบบนี้ อันนี้ก็ถือว่าทักษะการฟังพัฒนาไปได้แล้วด้วย ส่วนทีนี้คำที่เราไม่รู้เราก็ค่อยมาเปิดศัพท์ครับว่า แปลว่าอะไร และสิ่งที่เราลองทายถูกต้องหรือเปล่า
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม
5. หาคนพูดภาษาอังกฤษด้วย
อันนี้ก็คือวิธีการนึงครับทีเราจะได้คำศัพท์เพิ่ม เวลาที่เราต้องการอธิบายอะไรซักอย่าง แล้วเราไม่รู้จะใช้คำไหนดี เราก็เปิดศัพท์เราก็จะได้คำศัพท์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่ๆจะสามารถหาคนพูดด้วยได้หรือสามารถชทพิมพ์คุยด้วยได้ เราเคยแชร์บทความไปแล้วนะครับอันนึง ชื่อว่า เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ด้วยตนเอง เพื่อนสามารถคลิกเข้าไปดูได้นะครับ หรือ ถ้าอยากเรียนแบบจริงจังเลยแบบมีครูฝึกคอยช่วยแก้ประโยคให้ด้วย แบบนี้ก็จะเป็นไวกว่ามาก แต่ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายนิดนึงในการเรียน แต่ถ้าเทียบกับผลลัพท์ที่ได้ก็ถือว่าคุ้มค่านะครับในความคิดของแอดมิน ซึ่งถ้าฝึกพวกนี้เราก็แนะเป็นคอร์สเกี่ยวกับ การเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทั่วไป ก็จะได้เรียนเกี่ยวกับทั้งคำศัพท์ การฟัง แกรมม่า การพูด ก็ได้เกือบหมดเลยครับ
Engduo Thailand
คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตัวต่อตัว พูดได้ชัวร์ ใช้ได้จริง
สรุป
วิธีการเพิ่มคลังคำศัพท์ที่ได้ผลที่สุดก็คือต้องเพิ่มเติมทุกวัน วันละคำสองคำ คำไหนที่เราไม่รู้ก็ห้ามปล่อยผ่าน ไม่ว่าจะเรียนรู้ด้วย มุกตลกภาษาอังกฤษ หรือวิธีอื่นๆ ต้องรู้ทันที พอหลายๆวันไป เราก็ได้คำศัพท์เยอะขึ้นไปเรื่อยๆเองครับ ทางสถาบันสอนภาษาอังกฤษ Engduo Thailand ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆฝึกจนได้ และได้งานดีๆ หรือมีโอกาสดีๆกันนะครับ
และหากสนใจเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ Engduo Thailand เพื่อลงคอร์สเรียนภาษาอังกฤษกับเราได้เลย เพราะที่นี่มีให้เลือกเรียนภาษาอังกฤษหลากหลายคอร์สเรียนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร, ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก หรือใครที่กำลังมองหาคอร์สเรียนเพื่อเตรียมสอบ IELTS ที่นี่ก็มี
