เทคนิคการเลือกใช้ Tense ให้คล่องในชีวิตประจำวัน

Tense

ในภาษาไทย ประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน จะเป็นในอดีต ปัจจุบัน อนาคต เราก็ใช้รูปแบบเหมือน ๆ กัน เพียงเพิ่มคำบอกเวลาขึ้นมาเท่านั้นเอง แต่ถ้าเป็นภาษาอังกฤษแล้ว ประโยคของแต่ละรูปกาลจะมีโครงสร้างแตกต่างกันออกไป เราเรียกสิ่งนี้ว่า Tense

 

Tense คืออะไร?

Tense หรือ รูปกาล คือรูปแบบของประโยคในภาษาอังกฤษที่ทำหน้าที่บอกถึงช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์นั้น หากสื่อสารไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้ การ เรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร จึงมีบทเรียนเรื่อง Tense เป็นหัวข้อสำคัญที่ต้องเรียนรู้หลักการและฝึกใช้ให้ชำนาญ เพื่อสามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้อง

ในภาษาอังกฤษ Tense แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ ปัจจุบัน (present) อดีต (past) และอนาคต (future) ซึ่งในแต่ละรูปกาลยังแบ่งออกได้อีก 4 รูปกาลย่อย โดยสรุป ภาษาอังกฤษมี 12 Tense ที่มีโครงสร้างประโยคที่แตกต่างกัน มาถึงตรงนี้หลายคนอาจเริ่มท้อแท้ แต่ถ้าบอกว่ามี 5 Tense หลัก ๆ ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน น่าจะพอเบาใจขึ้นมาบ้าง

 

รู้จักโครงสร้าง Tense ทั้ง 12

  1. Present Tense
    • Present Simple Tense ใช้กับเหตุการณ์ในปัจจุบัน / ความจริงทั่วไป

โครงสร้างประโยค : ประธาน + กริยาช่องที่ 1 / ประธานบุรุษที่ 3 เอกพจน์ + กริยาช่องที่ 1 เติม s/es

  • Present Continuous Tense ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น หรือจะเกิดขึ้นแน่นอน

โครงสร้างประโยค : ประธาน + is/am/are + กริยาเติม ing

  • Present Perfect Tense ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและต่อเนื่อง/ส่งผลมาจนถึงปัจจุบัน

โครงสร้างประโยค : ประธาน + has/have + กริยาช่องที่ 3

  • Present Perfect Continuous Tense ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และต่อเนื่องถึงปัจจุบัน

โครงสร้างประโยค : ประธาน + has/have + been + กริยาเติม ing

  1. Past Tense
    • Past Simple Tense ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและสิ้นสุดลงแล้ว

โครงสร้างประโยค : ประธาน + กริยาช่องที่ 2

  • Past Continuous Tense ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในอดีต / เมื่อเกิดเหตุการณ์ 2 อย่างพร้อมกันในอดีต โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนใช้ Past Continuous เหตุการณ์ที่สองใช้ Past Simple

โครงสร้างประโยค : ประธาน + was/were + กริยาเติม ing

  • Past Perfect Tense ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่เกิดขึ้นในอดีต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนใช้ Past Perfect เหตุการณ์ที่เกิดทีหลังใช้ Past Simple

โครงสร้างประโยค : ประธาน + had + กริยาช่องที่ 3

  • Past Perfect Continuous Tense ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่เกิดขึ้นในอดีต โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไม่ขาดตอน ให้ใช้ Past Perfect Continuous เหตุการณ์ที่เกิดทีหลังใช้ Past Simple

โครงสร้างประโยค : ประธาน + had + been + กริยาเติม ing

  1. Future Tense
    • Future Simple Tense ใช้บอกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

โครงสร้างประโยค : ประธาน + will + กริยาช่องที่ 1

  • Future Continuous Tense ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในอนาคต / ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 2 อย่าง โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนใช้ Future Continuous เหตุการณ์ที่สองใช้ Present Simple

โครงสร้างประโยค : ประธาน + will + be + กริยาเติม ing + กรรม หรือส่วนขยาย

  • Future Perfect Tense ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกัน เหตุการณ์ที่คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ใช้ Future Perfect เหตุการณ์ที่จะเกิดตามมาใช้ Present Simple

โครงสร้างประโยค : ประธาน + will + have + กริยาช่องที่ 3 .

  • Future Perfect Continuous Tense ใช้เน้นถึงการต่อเนื่องของเหตุการณ์ในอนาคตที่ยังดำเนินอยู่และจะดำเนินต่อไปไม่หยุด

โครงสร้างประโยค : ประธาน + will + have + been + กริยาเติม ing + กรรม หรือส่วนขยาย

รายละเอียดคอร์สเรียน

5 Tense สำคัญที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน

จาก 12 Tense ที่เราเห็น มีเพียง 5 Tense เท่านั้นที่ใช้กันบ่อยในชีวิตประจำวัน เราจึงควรฝึกใช้ Tense ทั้ง 5 นี้ให้คล่อง เพื่อใช้ประโยชน์ในการสื่อสารภาษาอังกฤษ 5 Tense ที่ใช้บ่อยนี้คือ

  1. Present Simple Tense

ตัวอย่างประโยค:

I go to school every day.

She likes Thai Food.

Water boils at 100 degrees Celsius.

  1. Present Continuous Tense

ตัวอย่างประโยค:

My cat is eating fish.

He is flying to Germany on Sunday.

  1. Present Perfect Tense

ตัวอย่างประโยค:

I have read that book 2 times.

I have met her before. (เคยเจอมาในอดีตแล้ว)

  1. Past Simple Tense

ตัวอย่างประโยค:

I was born in 1999.

She went to the museum yesterday.

  1. Future Simple Tense

ตัวอย่างประโยค:

He will cook dinner.

I will not do all housework myself.

 

เมื่อใช้งาน 5 Tense หลักนี้ได้คล่องแล้ว การพยายามใช้ Tense ให้ได้ทั้ง 12 Tense ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ควรทำเช่นกัน หมั่นฝึกฝนบ่อย ๆ ดูจากโครงสร้างของ Tense ที่ให้ไว้ เรื่อง Tense ก็กลายเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเราได้ในที่สุด

Engduo Thailand สถาบันภาษา ที่มีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษให้เลือกมากมาย โดยสามารถเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวแบบออนไลน์ได้ หากสนใจสามารถเข้ามาดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ของ Engduo Thailand ได้เลยนะครับ

อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม

Engduo Thailand

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตัวต่อตัว พูดได้ชัวร์ ใช้ได้จริง

Engduo Thailand

ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย

FB: Engduo Thailand

Messenger

Line: @engduo

Tel: 0988268961

 

ที่มาข้อมูล

  • https://www.twinkl.co.th/blog/12-tense-and-structure
  • https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/82915
  • https://grammarlearn.com/สรุปหลักการของ-tense-ทั้ง-12-tense-ฉบับเข้าใจง่าย.html

บทความของเรา

แนะนำหนังสือภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย เรียนรู้ไว
แนะนำหนังสือภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย เรียนรู้ไว

มีใครที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษบ้าง? โดยปกติแล้วการอ่านหนังสือนั้นจะช่วยพัฒนาสมองและการเรียนรู้ของมนุษย์อยู่แล้ว ยิ่งหากใครที่ชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษก็จะทำให้สามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษไวขึ้นได้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ที่มาจากการสืบค้นเพิ่มเติมเมื่อเจอคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ หรือการเรียนรู้จากความเคยชินที่เจอคำศัพท์นั้นบ่อย ๆ ก็ตาม   อ่านหนังสือภาษาอังกฤษช่วยได้จริงหรือ? เชื่อว่าหลายคนอาจจะเกิดคำถามว่าการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นนวนิยาย หรือหนังสือประเภทต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากหนังสือเรียน

ดูบทความทั้งหมด