อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ กับเรื่อง Conjunction

อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ กับเรื่อง Conjunction

ประโยคพื้นฐานทั่วไปที่เราใช้กันไม่ว่าจะเป็นในภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ จะมีโครงสร้างประโยคคือ ประธาน + กริยา + กรรม ( Subject + Verb + Object ) แต่เมื่อมีประโยค 2 ประโยคขึ้นไป ไม่ว่าจะมีความหมายเดียวกันหรือความหมายต่างกัน สิ่งที่จะมาทำให้ประโยคเชื่อมต่อกันให้เป็นประโยคที่สวยงามได้นั้น จะต้องใช้คำสันธานหรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า “ Conjunction ”

“ Conjunction ” คืออะไร

Conjunction หรือ คำสันธาน คือ คำที่ใช้เชื่อมคำหรือข้อความให้ติดต่อเป็นเรื่องเดียวกัน ประโยคจะมีความกระชับ รัดกุม และสละสลวยขึ้น ยกตัวอย่างคำในภาษาไทย เช่นคำว่า และ แล้ว จึง แต่ หรือ เพราะ เหตุเพราะ เป็นต้น

ในภาษาอังกฤษก็มีคำ หรือวลีที่ใช้คล้ายคลึงกับคำสันธานในภาษาไทยเช่นกัน โดยในภาษาอังกฤษจะเรียกคำสันธานว่า “ Conjunction ” อย่างเช่นคำว่า and, yet, but, for, so, nor, neither และ or เป็นต้น

Conjunction ในภาษาอังกฤษ จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ Coordinating Conjunction, Subordinating Conjunction และ Correlative Conjunction โดยจะอธิบายหลักการ และวิธีการใช้ในลำดับต่อไป

 

หลักการใช้ Coordinating Conjunction

          Coordinating Conjunction คือ คำสันธานที่ใช้เชื่อมคำ วลี หรือประโยคที่เป็นประเภทเดียวกัน มีความหมายเดียวกัน หรือมีความสำคัญเท่าเทียมกัน โดยจะใช้เชื่อมระหว่าง คำกับคำ, วลีกับวลี หรือ ประโยคกับประโยคก็ได้ โดยจะมีกลุ่มคำดังต่อไปนี้

  • For ใช้เชื่อมประโยคที่มีความเป็นเหตุเป็นผลกันหรือสอดคล้องกัน มีความหมายว่า สำหรับ , เพื่อ , ให้ , ของ , เป็นเวลา , เพราะ , แก่ หรือแทน ยกตัวอย่างประโยคดังนี้

I tell her to leave, for I’m very tired.

ฉันบอกให้เธอไปก่อนเลย เพราะว่าฉันเหนื่อยมาก

  • And ใช้เชื่อมประโยคที่มีความหมายไปในทางเดียวกันหรือเหมือนกัน มีความหมายว่า และ , กับ , รวมทั้ง หรือตลอดจน ยกตัวอย่างประโยคดังนี้

Lisa and Linda sing a song.

ลิซ่ากับลินดาร้องเพลง

  • So ใช้เชื่อมประโยคที่มีความเป็นเหตุเป็นผลกันหรือสอดคล้องกัน มีความหมายว่า ดังนั้น , แล้ว , เพราะฉะนั้น , เช่นนั้น , หรืออย่างนั้น เช่น

We haven’t enough beds, so I go to sleep on the floor.

พวกเรามีเตียงไม่พอ เพราะฉะนั้นฉันก็เลยไปนอนที่พื้น

  • Nor ใช้เชื่อมประโยคที่มีความหมายไปในเชิงปฏิเสธทั้งคู่ มีความหมายว่า ไม่ , และไม่ หรือ และก็ไม่เหมือนกัน เช่น

My father nor your uncle play tennis.

พ่อของฉันกับลุงของคุณไม่ได้ตีเทนนิส

  • But ใช้เชื่อมประโยคที่มีความขัดแย้งกันมาก ๆ มีความหมายว่า แต่ ,แต่ว่า , ยกเว้น , ถ้าไม่ หรือแต่กระนั้น เช่น

My grandfather’s 75 but he still strong.

ปู่ของฉันอายุ 75 แล้ว แต่เขายังคงแข็งแรง

  • Yet ใช้เชื่อมประโยคที่มีความขัดแย้งกันมาก ๆ มีความหมายว่า แต่ หรือแต่ว่า เช่น

He studies very hard, yet failed exam

เขาเรียนหนักมากเลย แต่ก็ยังสอบตก

 

รายละเอียดคอร์สเรียน

 

หลักการใช้ Subordinating Conjunctions

          Subordinating conjunction คือ คำสันธานที่นำมาใช้เชื่อมประโยคที่มีความสำคัญไม่เท่ากัน ใช้เชื่อมประโยคหลักกับประโยครองเพื่อให้ประโยคสวยขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มย่อย ๆ ดังนี้

  • คำสันธานที่ใช้เกี่ยวกับเวลา เช่น while , when , after , before , as soon as , once , whenever และ until ตัวอย่างประโยคเช่น

While I am going to school, my phone is rang.

ขณะที่ฉันกำลังไปตลาด โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น

  • คำสันธานที่ใช้เมื่อประโยคมีความขัดแย้งกัน เช่น although , though , even though และ whereas ยกตัวอย่างเช่น

Although you have a headache, you go to play basketball.

ถึงแม้ว่าคุณจะปวดหัว คุณก็ไปเล่นบาสเก็ตบอลอยู่ดี

  • คำสันธานที่ใช้ในการบอกเหตุผล เช่น because , since , so that , as , in order that ยกตัวอย่างเช่น

My vase is broken because the cat jumps on the table.

แจกันของฉันแตก เพราะแมวกระโดดอยู่บนโต๊ะ

  • คำสันธานที่ใช้ในการบอกเงื่อนไข เช่น if , provided that , assuming that , as long as , even if และ unless ยกตัวอย่างเช่น

Her mom will buy the car for her if she pass her exam.

แม่ของเธอจะซื้อรถยนต์ให้เธอ ถ้าเธอสอบผ่าน

หลักการใช้ Correlative Conjunction

          Correlative conjunction คือคำสันธานที่ใช้เชื่อมประโยคที่มีความสอดคล้องกัน และมีความเท่าเทียมกัน โดยจะเป็นคำที่ต้องใช้คู่กันเสมอ โดยจะมีกลุ่มคำดังต่อไปนี้

  • not only…..but also แปลว่า ไม่ใช่แค่จะ…….แต่ยัง ยกตัวอย่างประโยค เช่น

They not only eat the cakes but also drink the coffee.

พวกเขาไม่ใช่แค่จะกินเค้ก แต่ยังดื่มกาแฟด้วย

  • either…..or คือ คำสันธานที่ประธานของประโยคจะต้องเลือกกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว ยกตัวอย่างประโยค เช่น

You could either go to the beach or hike up the mountain.

คุณสามารถไปที่ชายหาดหรือเดินขึ้นเขาก็ได้

  • as…..as คือ คำสันธานที่แสดงให้เห็นถึงความเท่ากับ เสมอกัน หรือเหมือนกัน หรือใช้ในเชิงเปรียบเทียบบางสิ่งที่เท่ากัน ยกตัวอย่างประโยค เช่น

She drives the car as fast as him

เธอขับรถยนต์เร็วพอ ๆ กับเขา

 

คำสันธาน หรือ Conjunction ในภาษาอังกฤษนั้น เมื่อแบ่งตามวิธีการใช้แล้ว จะสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ

  1. Coordinating Conjunction จะใช้เชื่อมประโยคที่มีความเหมือนกัน หรือต่างกัน โดยที่ความหมายของประโยคจะต้องมีน้ำหนักเท่ากัน โดยจะมีคำว่า for, and, nor, but, or, yet และ so
  2. Subordinating Conjunction นำมาใช้เชื่อมประโยคที่มีความสำคัญไม่เท่ากัน โดยที่ความหมายของประโยคจะต้องมีน้ำหนักไม่เท่ากัน โดยจะมีคำว่า while , when , after , before , as soon as , once , whenever , although , though , even though , because , since , so that , as , in order that , if , provided that , assuming that , as long as และ even if
  3. Correlative Conjunction ใช้เชื่อมประโยคที่มีความเหมือนกัน หรือต่างกัน และมีน้ำหนักเท่ากันเหมือนกับ Coordinating Conjunction แต่จะใช้คำสันธาน 2 คำขึ้นไป เช่น as…as , both…and , either…or , neither…nor , just as…so และ not only…but also

 

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเนื้อหาในบทความนี้ Engduo Thailand ที่มีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ไม่มีพื้นฐานก็เรียนได้  ซึ่งเป็นคอร์ส เรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว ในราคาถูก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการสื่อสาร การสัมภาษณ์งาน หรือการสอบ IELTS หวังว่าผู้อ่านจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับ Conjunction มากขึ้น และสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง

อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม

Engduo Thailand

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตัวต่อตัว พูดได้ชัวร์ ใช้ได้จริง

 

Engduo Thailand

ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย

FB: Engduo Thailand

Messenger

Line: @engduo

Tel: 0988268961

 

ที่มาข้อมูล

  • https://grammar.yourdictionary.com/parts-of-speech/conjunctions/what-is-a-conjunction.html
  • https://dictionary.cambridge.org/grammar/british-grammar/conjunctions
  • https://en.wikipedia.org/wiki/Conjunction_(grammar)
  • https://www.gingersoftware.com/content/grammar-rules/conjunctions/

 

บทความของเรา

ดูบทความทั้งหมด