หลายคนอาจจะเคยได้ยินภาษาอังกฤษที่แตกออกเป็นสไตล์ British vs American แล้วอาจมีข้อสงสัยว่า มันต่างกันแค่ไหนนะ แต่ที่เราสามารถเห็นได้ชัดเจนที่สุดคือคำศัพท์! มีทั้งที่สะกดคล้ายกันและไม่เหมือนกัน แถมอ่านไม่เหมือนกันอีกด้วย ดังนั้นเรามาลองเปรียบเทียบคำศัพท์ British และ American ว่า คุณเห็นคำไหนกันมาบ้างและคำไหนที่ต้องรู้!
British vs American มีคำศัพท์ที่ต่างกันมากน้อยแค่ไหน หน้าตาเหมือนกันไหม
จริง ๆ แล้วภาษาอังกฤษทั้งสองแบบมีความแตกต่างทางสำเนียงและหลักไวยากรณ์ แต่อย่างที่เราได้เห็นกันว่า สิ่งที่เราสามารถเห็นได้ชัดเจนมากที่สุดคือคำศัพท์นั่นเอง บางคำก็สะกดคล้ายกัน แต่บางคำก็สะกดไม่เหมือนกันเลย แต่มีความหมายเหมือนกันทั้งคู่ บางทีเราอาจสังเกตได้จากตัวสะกดลงท้ายอย่าง colour (British) vs color (American) = สี หรือ analyse (British) vs. analyze (American) = วิเคราะห์ บางครั้งก็สะกดเหมือนกันแต่อ่านไม่เหมือนกัน เช่น water = น้ำ British จะออกเสียง โว้-เถอะ แต่ American จะพูดว่า ว้อ- เด่อร ฟังมาจนถึงตรงนี้แล้วอาจดูยากใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าได้ฝึกพูดบ่อย ๆ ก็จะคุ้นเคยไปเอง เรามาดูกันดีกว่าว่าคำศัพท์ระหว่าง British และ American จะเป็นอย่างไร พร้อมประโยคที่นำไปใช้ได้ มาดูกันเลย
ตัวอย่างคำศัพท์พร้อมประโยค
American | British | ความหมาย |
Mad | Angry | โกรธ, โมโห |
He must be mad / angry that she spent all that money on a fur coat.
เขาต้องโกรธแน่ ๆ ที่หล่อนใช้เงินทั้งหมดไปกับเสื้อโค้ตเฟอร์แค่ตัวเดียว |
||
Anyplace | Anywhere | ที่ไหนก็ได้, ที่ไหนก็ตาม |
I can’t find my keys anyplace / anywhere.
ฉันหากุญแจของฉันที่ไหนก็ไม่เจอเลย |
||
Cookie | Biscuit | ขนมอบกรอบ |
My mom baked cookies / biscuits for me.
แม่ของฉันอบขนมอบกรอบให้ฉันด้วยล่ะ |
||
Bill | Bank Note | เงิน, ธนบัตร |
They withdrew £20,000 in small bills / banknotes.
พวกเขาแลกเงินจำนวน 20,000 ปอนด์เป็นแบงค์ย่อย |
||
French Fries | Chips | มันฝรั่งทอด |
Millions of hamburgers and French fries / chips are eaten every year.
มีการกินแฮมเบอร์เกอร์และเฟรนช์ฟรายส์หลายล้านชิ้นทุก ๆ ปี |
||
Movie | Film | ภาพยนตร์ |
Comedy and animation are my favorite types of movie / film.
แนวตลกและแอนิเมชั่นเป็นหนังโปรดของฉันเลยล่ะ |
||
Vacation | Holiday | วันหยุด |
Her neighbors are going to Scotland for their vacation / holidays.
เพื่อนบ้านของเธอกำลังเดินทางไปสกอตแลนด์ในวันหยุดของพวกเขา |
||
Elevator | Lift | ลิฟต์โดยสาร |
We need to take the elevator / lift to the eleventh floor.
เราต้องขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นสิบเอ็ด |
||
Baggage | Luggage | กระเป๋าเดินทาง |
I think I should buy a new baggage / luggage for the next trip.
ฉันคิดว่า ฉันควรซื้อกระเป๋าเดินทางใหม่สำหรับทริปหน้าละล่ะ |
||
Underwear | Pants | กางเกงชั้นใน |
Are you in front of the door? I’m in my underwear / pants.
เธออยู่หน้าประตูแล้วหรอ ฉันยังใส่กางเกงชั้นในอยู่เลย |
||
Store | Shop | ร้านขายของ |
Here is the large store / shop where you can buy many different types of goods.
นี่คือร้านค้าขนาดใหญ่ที่คุณสามารถซื้อสินค้าได้หลากหลายประเภท |
||
Candy | Sweets | ขนมหวาน |
You will gain weight if you eat to many candy / sweets.
เธอจะน้ำหนักขึ้นนะ หากเธอกินขนมหวานมากเกินไป |
||
Closet | Wardrobe | ตู้เสื้อผ้า |
Her closet / wardrobe is full of stylish clothes and bags for any occasion.
ตู้เสื้อผ้าของเธอเต็มไปด้วยเสื้อผ้าและกระเป๋าที่ดูดีมีสไตล์เหมาะกับทุกโอกาส |
||
Schedule | Time-table | ตารางเวลา, กำหนดการ |
As we are too busy, we need to draw up a new schedule / time-table.
เนื่องจากพวกเรายุ่งกันมากเกินไป เราจำเป็นต้องจัดทำกำหนดการ/ตารางเวลาใหม่ |
||
Faucet | Tab | ก๊อกน้ำ |
Don’t forget to turn the faucet / tab off when you’re finished washing hands.
อย่าลืมปิดก๊อกน้ำ เมื่อคุณล้างมือเสร็จแล้ว |
||
Semester | Term | ภาคการศึกษา |
This semester / term is over now. When will get our grades?
เทอมนี้ก็จบแล้ว เมื่อไหร่เกรดพวกเราจะออก |
ใช้แบบไหนถึงจะถูก?
ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เราใช้ โดยส่วนใหญ่เราจะคุ้นเคยกับ American English กันเสียมากกว่าในประเทศไทย เนื่องจากมีการเผยแพร่ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันขึ้นหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง และทางสหรัฐอเมริกาต้องการที่จะขึ้นเป็นประเทศมหาอำนาจในทางการทหารและเทคโนโลยี พร้อมกับการล่มสลายของจักรวรรดิอังกฤษ ดังนั้น American English จึงเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างและผู้คนก็เลือกใช้ภาษาอังกฤษสไตล์นี้ ณ เวลานั้น ทางที่ดีในบริบทต่าง ๆ เราควรเลือกใช้ American English หรือ British อย่างเดียวไปเลย เพื่อไม่ให้ต่างชาติสับสน โดยเฉพาะงานเขียนหรือการนำเสนองานที่ต้องใช้ความเป็นทางการ จึงควรเลือกใช้แบบเดียวเท่านั้น แต่หากคุณเป็นผู้เริ่มใช้ภาษาอังกฤษและไม่มีคลังคำศัพท์มากนักและพูดคุยแบบไม่ทางการ สามารถใช้ได้ทั้งสองแบบได้เลย แต่ทาง British จะค่อนข้างพูดและออกเสียงยากกว่าสักหน่อย เพราะพวกเขาต้องการอนุรักษ์ภาษาของตัวเองไว้สืบต่อไป
เราหวังว่า คำศัพท์ระหว่าง British vs American พื้นฐานที่ต้องรู้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนภาษาอังกฤษกันบ้างนะ ภาษาอังกฤษสามารถเปลี่ยนแปลง พลิกแพลงได้ตามสถานการณ์ หากอยากรู้คำศัพท์ของทั้งสองมากขึ้น ลองไปศึกษากันต่อดูนะ เพราะคุณจะได้เจอความแตกต่างของทั้งสองอย่างที่ไม่เคยพบเลยล่ะ แล้วมารอติดตามบทความ เรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร อีกมากมายกับ Engduo Thailand หรือหากใครอยากเรียนภาษาอังกฤษ แต่ไม่มีพื้นฐานก็สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้เลย แถมยังมีการเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวอีกด้วย รวมไปถึงนอกจากเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารแล้ว ยังมีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์สำหรับสัมภาษณ์งาน, ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก หรือสำหรับการสอบ IELTS