เตรียมตัวอย่างไร เมื่อต้องถูกสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษ

Prepare for an job interview in English

ทุกวันนี้ไม่ว่าจะไปสัมภาษณ์งานที่ไหน สิ่งที่ใครหลายคนต่างกลัวและหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ “การถูกสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษ” นั่นเอง เพราะว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลและสำคัญกับทุกอาชีพ จึงไม่แปลกที่ทุกบริษัทจะต้องการพนักงานที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้

แต่บางคนก็แอบกลัวตอนสัมภาษณ์และอาจทำให้รู้สึกลน ไปไม่ถูกจนทำให้การสัมภาษณ์งานครั้งใหญ่พลาดได้ ดังนั้นการเตรียมตัวจึงเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้เรา Engduo Thailand จึงมาแชร์ 3 เคล็ดไม่ลับในการเตรียมตัวสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษให้กับเพื่อน ๆ บอกเลยไม่มีกั๊ก ได้ผลชัวร์!

 

introduce yourself in english

1. การแนะนำตัวเอง

ความประทับใจแรกในการสัมภาษณ์งานนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเสื้อผ้าหน้าผมและบุคลิกเท่านั้น แต่ยังมีการแนะนำตัวเองกับคำถามที่ว่า “introduce about yourself” หรือ “tell us about yourself” ที่หมายถึง ให้เราแนะนำตัวเองนั่นเอง แม้การแนะนำตัวเองจะมีแพทเทิร์นในการพูดอย่างเช่น ชื่อ การศึกษาและประสบการณ์การฝึกงานและการทำงานต่าง ๆ

แต่แท้จริงแล้วเราสามารถทำให้มันดูน่าสนใจและดูเป็นมืออาชีพได้มากกว่านั้น เคล็ดลับง่าย ๆ ในการแนะนำตัวเอง เราสามารถเล่าได้จากปัจจุบัน อดีตและอนาคต เพื่อพูดถึงว่าปัจจุบันเรากำลังทำงานหรือตำแหน่งอะไรอยู่ เราเคยศึกษาหรือทำงานอะไรมาบ้างในอดีต และพูดไปจนถึงอนาคตที่เราอยากทำงานกับบริษัทนี้

หากเป็นนักศึกษาจบใหม่ก็อาจจะพูดในเรื่องของความสามารถและกิจกรรมในรั้วมหาลัย การฝึกงาน กิจกรรมต่าง ๆ นอกมหาวิทยาลัยที่เคยได้ทำ เพื่อบ่งบอกว่า เราเองก็มีความหลงใหล มีสิ่งที่สนใจและมีส่วนร่วมในเรื่องต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เรายังสามารถพูดถึงความสนใจที่เป็นประโยชน์ต่องานที่เราสมัครได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม การแนะนำตัวเองต้องไม่เยิ่นเย้อหรือไร้ทิศทาง แต่เน้นไปที่จุดเด่นที่เป็นสาระ กระชับได้ใจความ พูดอย่างมั่นใจ เผยความเป็นตัวเองในแง่บวกด้วยล่ะ

preparing for interviews

2. เตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อย

ไม้ตายสำหรับการสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษเลยก็คือ “คำถามที่พบบ่อย” แต่ถ้าเราเตรียมตัวมาอย่างดีแล้วก็ไม่มีอะไรต้องกลัวเลย โดยลิสต์คำถามที่พบบ่อยมีดังนี้

1) What are your strengths? = จุดแข็งของเราคืออะไร 

จุดแข็งหรือข้อดีของเราคืออะไร แต่อย่าตอบสิ่งที่ไม่จริงหรือสุ่มตอบมั่ว ๆ ไปเลยเชียวนะ แนะนำให้ใช้ประโยคอย่างเช่น I’m good communication, and teamworking skills. (ฉันมีทักษะในการสื่อสารและการทำงานเป็นทีม) ทั้งนี้เราอาจจะเลือกจุดแข็งที่เด่น ๆ มา 2 ข้อและมีความเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่เราสมัครงานโดยตรง พร้อมกับอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้เราแตกต่างและโดดเด่นจากคนอื่น ๆ หากยังนึกไม่ออก ก็นึกถึงเรื่องที่เพื่อนร่วมงาน อาจารย์ หรือในที่ฝึกงานว่าเคยชื่นชมเราอย่างไรบ้าง เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่าง: 

I think one of my strengths is problem-solving. I am good at seeing a situation from different perspectives. I am able to get my work done even in the face of difficult obstacles.

ฉันคิดว่าหนึ่งในจุดแข็งของฉันคือการแก้ปัญหา ฉันเก่งในการมองสถานการณ์จากมุมมองที่ต่างออกไป ฉันสามารถทำงานให้สำเร็จได้แม้ต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ยากลำบาก

 

2) What are your weaknesses? = จุดอ่อนของเราคืออะไร 

คำถามต่อไปคือจุดด้อยหรือจุดอ่อนของเราในการทำงาน ซึ่งเป็นคำถามที่มาคู่กับคำถามแรกที่ได้บอกไป ซึ่งเราควรระมัดระวังในคำตอบข้อนี้ด้วย โดยไม่ควรจะดึงจุดดีมาเป็นจุดอ่อนอย่างเช่น I’m too perfectionist. (ฉันเป็นคนที่ชอบความสมบูรณ์แบบจนเกินไป) ซึ่งมันไม่เกี่ยวข้องกับจุดอ่อนเลย อย่างที่สองคือเลือกจุดอ่อนที่จะไม่เป็นอุปสรรคหรือข้อด้อยต่อตำแหน่งงานและการทำงานที่เรากำลังสมัครอยู่ แล้วจบด้วยว่าเราเคยแก้ไขหรือพัฒนาข้อด้อยเหล่านี้มาแล้วอย่างไรบ้าง

ตัวอย่าง

I always met my deadlines, but I used to have a problem with procrastination, and I’d end up working really long days as a deadline approached. To solve this thing, I put together a plan as soon as I get a new assignment, and I often beat my deadlines.

แม้ว่าฉันจะทำงานทันกำหนดเวลาเสมอ แต่ฉันเคยมีปัญหากับการผัดวันประกันพรุ่ง และจบด้วยการทำงานเป็นเวลานานเมื่อถึงวันกำหนดส่ง ในการแก้ปัญหานี้ ฉันจึงกำหนดแผนการทำงานทันทีที่ได้รับมอบหมาย และมักจะทำงานส่งตรงเวลาเสมอ

รายละเอียดคอร์สเรียน

3) Why did you leave your last job? = ทำไมถึงลาออกจากงาน

อีกคำถามที่หลายคนไม่อยากเจอคือคำถามนี้ แน่นอนว่า ทุกคนมีหลายเหตุผล แต่การเลือกตอบคำถามในข้อนี้คือการที่บริษัทวัดว่า เรามีแนวโน้มที่จะทำงานในองค์กรในระยะยาวหรือไม่ เราควรหลีกเลี่ยงคำตอบเชิงลบที่พาดพิงถึงงานเก่า เจ้านายหรือเพื่อนที่ทำงานเก่า แต่ให้แสดงทัศนคติที่ดีผ่านคำตอบ

ตัวอย่าง

I’ve excelled and accomplished with this job already, so I’m seeking a new challenge.

ฉันทำงานได้ดีและประสบความสำเร็จในงานนี้เพียงพอแล้ว ดังนั้นฉันจึงกำลังหาความท้าทายใหม่อยู่

 

I’m looking for a job that suits my qualifications, and the role didn’t exactly match my expectations.

ฉันกำลังหางานที่เหมาะสมกับสายที่ฉันเรียนจบมา และบทบาทของงานก็ไม่ตรงกับสิ่งที่ฉันคาดหวังไว้

 

I’ve worked at the company for a long time and I would like to experience a different environment for career growth. 

ฉันทำงานที่บริษัทมาเป็นเวลานานและฉันต้องการที่จะทำงานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากเดิมเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ

 

I know that I do my best work, but it’s important to me to work for a company that values my schedule and allows for flexibility as appropriate. 

ฉันรู้ว่าฉันทำงานได้ดีที่สุด แต่สิ่งสำคัญสำหรับฉันคือการทำงานกับบริษัทที่ให้ความสำคัญกับเวลาทำงานและยอมให้มีความยืดหยุ่นตามความเหมาะสม

 

4) Why Should We Hire You? = ทำไมถึงต้องจ้างเรา

คำถามนี้ทำให้หลายคนสะอึกไปตาม ๆ กันเลย เพราะไม่รู้จะตอบยังไงดี ง่าย ๆ เลยก็คือว่าทำไมเราถึงเหมาะสมกับตำแหน่งงานนี้ โดยอาจอ้างอิงจากงานที่เคยทำหรือประสบการณ์ที่มีซึ่งเป็นประโยชน์ต่องานนี้โดยตรง พร้อมกับจุดเด่นของเราที่ทำให้เราดูโดดเด่นกว่าคนอื่นจริง ๆ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องทั่วไป

ตัวอย่าง

As a recent college graduate, I know that I lack any career experience. However, I’ve learned how to multitask and prioritize responsibilities from my internship experiences and life in the university. The ability to effectively prioritize is a significant component of success for me.

ในฐานะเด็กจบใหม่ ฉันรู้ว่าฉันขาดประสบการณ์ในการทำงาน อย่างไรก็ตามฉันได้เรียนรู้วิธีการทำงานหลายอย่างพร้อมกันและจัดลำดับความสำคัญของความรับผิดชอบจากประสบการณ์ฝึกงานและชีวิตในมหาวิทยาลัย ซึ่งความสามารถในการจัดลำดับความสำคัญอย่างมีประสิทธิภาพคือหนึ่งในรากฐานความสำเร็จสำหรับฉัน

 

I am diligent and social with all kinds of people. As a fast learner who is always curious about new challenges, I always overcome the challenges expected on the job with my passion.

ฉันเป็นคนขยันและเข้าสังคมกับคนทุกประเภท ในฐานะที่ฉันเป็นคนเรียนรู้เร็วและอยากรู้อยากเห็นในความท้าทายใหม่ ๆ อยู่เสมอ ฉันจึงเอาชนะความท้าทายที่คาดหวังจากงานได้ด้วยความหลงใหลที่มีอยู่เสมอ

 

I’m ready to learn new things, and I’m able to abide by the rules guiding the operations of the company while moving ahead with necessary plans. Please give me a chance to prove my competence and you will exactly see what I can do.

ฉันพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และฉันสามารถปฏิบัติตามกฎที่ชี้นำการดำเนินงานของบริษัท ไปพร้อม ๆ กับดำเนินการตามแผนที่จำเป็น โปรดให้โอกาสฉันพิสูจน์ความสามารถ แล้วคุณจะเห็นถึงสิ่งที่ฉันสามารถทำได้อย่างแน่นอน

Engduo Thailand

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตัวต่อตัว พูดได้ชัวร์ ใช้ได้จริง

5. Where do you see yourself in five years? = คุณเห็นตัวเองอยู่ที่ไหนในอีก 5 ปีข้างหน้า

แม้เราอาจจะไม่รู้ว่าเราจะอยู่ที่ไหนในอีก 5 ปีข้างหน้า แต่หากเราอยากได้งานที่ไหน ก็ต้องตอบคำถามให้เกี่ยวเนื่องกับบริษัทดังกล่าว พร้อมกับการพัฒนาและหาความก้าวหน้าไปพร้อม ๆ กัน

ตัวอย่าง

My ultimate goal for the next five years is to master my position and advance into a managerial role within that department.

เป้าหมายสูงสุดของฉันในอีก 5 ปีข้างหน้าคือความชำนาญในตำแหน่งหน้าที่การงาน และก้าวไปสู่บทบาทด้านการบริหารภายในแผนกนั้น ๆ

From the time I read the job description for this position, I was excited about your company’s role. For this reason, I am thrilled at the possibility of working with you for a long time.

ตั้งแต่ที่ได้อ่านรายละเอียดสำหรับงานตำแหน่งนี้ ฉันก็รู้สึกตื่นเต้นกับบทบาทของบริษัท ด้วยเหตุนี้ฉันจึงรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้มีโอกาสร่วมงานกับคุณในระยะยาว

6. What questions do you have for me? = คุณมีอะไรจะถามเราไหม

คำถามปิดท้ายคงไม่พลาดคำถามนี้แน่นอน อย่าปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป เมื่อเราถูกสัมภาษณ์แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราต้องสัมภาษณ์บริษัทด้วยเช่นกัน

ตัวอย่าง

Can you talk about company culture?

คุณช่วยเล่าถึงวัฒนธรรมในองค์กรให้ฟังได้ไหม

Are there any qualifications that you think I’m missing for this position?

มีคุณสมบัติอะไรที่คุณคิดว่าฉันขาดไปสำหรับตำแหน่งงานนี้

confidence speaking

3. ฝึกพูดเสริมความมั่นใจ

เราสามารถเตรียมตัวง่าย ๆ ได้ด้วยการลิสต์คำถาม ร่างคำตอบไว้ก่อนและฝึกพูดกับตัวเอง หรืออาจจะรบกวนเพื่อนมาช่วยฝึกถามตอบด้วยก็ยิ่งดีเลย เพราะภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ของเรา อย่างไรก็ตามเราต้องพูดออกไปให้เป็นตัวเราและเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด

แต่ต้องพึงนึกถึงเสมอไว้ว่า การฝึกพูดไม่ใช่การท่องจำ เราอาจจะนึก keyword สำคัญไว้ แล้วนำไปปรับใช้พูดในสถานการณ์จริง แต่ในระหว่างสัมภาษณ์งานเราอาจจะเจอคำถามหรือสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เป็นได้ ดังนั้นการมีไหวพริบและสติเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งการฝึกพูดและเตรียมพร้อมจะช่วยลดความตื่นเต้นได้มากเลยทีเดียว นอกจากนี้เราสามารถอัดเสียงและนำมาฟังเพื่อดูว่าเราขาดอะไรไป อยากแก้จุดไหน ไม่ว่าจะเป็นคำตอบหรือการพูด เพื่อดูว่าเราตอบชัดเจนไหม กระชับไหมและสำเนียงโอเคหรือไม่ วิธีนี้บอกเลยว่า เบสิกแต่เจ๋งสุด

การเตรียมตัวไม่ใช่แค่การฝึกฝนเพียงอย่างเดียว แต่มันช่วยลดความตื่นเต้น ดูเป็นธรรมชาติ ดูเป็นมืออาชีพ พร้อมเสริมความมั่นใจในการสัมภาษณ์งานอีกด้วย ภาษาอังกฤษไม่ยาก การสัมภาษณ์ก็ไม่ยากเช่นกัน เพียงแค่เรามีความตั้งใจ เตรียมตัวให้พร้อม ตำแหน่งงานและบริษัทที่เราใฝ่ฝันก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน เราขอเป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ได้งานที่ใช่ บริษัทที่ชอบกันนะ

Engduo Thailand

ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย

FB: Engduo Thailand

Messenger

Line: @engduo

Tel: 0988268961

สุดท้ายทางเราสถาบันสอนภาษาอังกฤษ Engduo Thailand ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนทุกคนที่กำลังฝึกฝนภาษาอังกฤษนะครับ สำหรับใครที่สนใจการเรียนภาษาอังกฤษ ไม่มีพื้นฐานก็เรียนได้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทั่วไป หรือใช้เพื่อการทำงาน หรือต้องการสัมภาษณ์งาน เรามีเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวที่สามารถตอบโจทย์ผู้เรียนได้ทุกรูปแบบนะครับ และยังสามารถออกแบบคอร์สได้ตามต้องการอีกด้วย ถ้าเพื่อนๆสนใจสามารถติดต่อเราได้เลยนะครับ

อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม

ที่มาข้อมูล

  • https://www.leonardoenglish.com/blog/5-ways-to-remember-english-vocabulary
  • https://preply.com/en/blog/how-to-memorize-new-words-in-english/
  • https://www.apartmenttherapy.com/best-vocabulary-apps-and-games-iphone-android-260815c

บทความของเรา

ดูบทความทั้งหมด