ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบัน ภาษาอังกฤษเข้ามามีบทบาท และมีอิทธิพลในทุกก้าวของชีวิตเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนภาษาอังกฤษเริ่มตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล หรือค่านิยมต่าง ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่าทุกคนควรจะต้องใช้ภาษาอังกฤษได้ หรืออย่างน้อยหากสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ก็จะทำให้มีหนทางการทำงานที่เติบโตได้ในอนาคต
Part of Speech คืออะไร
ก่อนอื่นเราจะต้องทำความรู้จักก่อนว่า Part of Speech คือประเภทของคำต่าง ๆ ในภาษาอังกฤษ ที่ใช้บอกว่าแต่ละคำมีหน้าที่ทำอะไร และอยู่ส่วนไหนในประโยค ซึ่งถือได้ว่าเป็นการปูพื้นฐาน gramma สำหรับการเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษเลยก็ว่าได้
Part of Speech มีอะไรบ้าง
Part of Speech ประกอบไปด้วย 8 ตัว ได้แก่ Noun (คำนาม), Pronoun (คำสรรพนาม), Verb (คำกริยา), Adjective (คำคุณศัพท์), Adverb (คำกริยาวิเศษณ์), Preposition (คำบุพบท), Conjunction (คำสันธาน) และ Interjection (คำอุทาน) โดยมีรายละเอียด และวิธีการใช้ ดังนี้
Noun (คำนาม)
ใช้เรียกแทน คน, สัตว์, สิ่งของ และสถานที่ สามารถทำได้หลายหน้าที่ ทั้งประธาน กรรมตรง กรรมรอง และส่วนขยาย แบ่งเป็น
- Common Noun (คำนามทั่วไป) เป็นคำนามที่ไม่เฉพาะเจาะจง เช่น cat, dog
- Proper Noun (คำนามชี้เฉพาะ) เป็นคำนามที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ และสถานที่แบบเฉพาะเจาะจง สังเกตได้จากการใช้ตัวนำหน้าเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ เช่น Thailand, Japan
Pronoun (คำสรรพนาม)
ใช้แทนคำนาม เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้คำนามเดิมซ้ำ ๆ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับคน สัตว์ สิ่งของ หรือสถานที่ ได้แก่ I, you, we, they, her, his, them, it, yours, myself เป็นต้น สามารถเป็นได้ทั้งประธานและกรรมในประโยค
Engduo Thailand
คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตัวต่อตัว พูดได้ชัวร์ ใช้ได้จริง
Engduo Thailand
ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย
Verb (คำกริยา)
ใช้แสดงการกระทำ มี 2 ประเภท ได้แก่ Verb แท้ และ Verb ช่วย
- Verb แท้ แทนการกระทำ เช่น They swim. / She eats an apple.
- Verb ช่วย ประกอบด้วย Verb to do, Verb to have, Verb to be, Modal Verbs
คำกริยาจะผันได้ 3 ช่อง ตามโครงสร้าง Tense ของประโยค มีทั้งงเปลี่ยนรูปและไม่เปลี่ยนรูป ตัวอย่างเช่น
- do / did / done
- eat / ate / eaten
- win / won / won
- cut / cut /cut
Adjective (คำคุณศัพท์)
ใช้บอกลักษณะ และขยายคำนาม เช่น big, tall, fat, small, beautiful
- วางไว้หน้าคำนาม เช่น good girl : good คือคำคุณศัพท์ใช้ขยาย girl ที่เป็นคำนาม
- อยู่ตรงกลางระหว่าง article และ noun เช่น A beautiful girl
Adverb (คำกริยาวิเศษณ์)
ใช้ขยายคำกริยา และคำคุณศัพท์ grnjvขยายว่าประธานในประโยคกำลังทำกริยาอย่างไร มักจะวางอยู่ด้านหน้าหรือหลังคำกริยาเสมอ
ตัวอย่างประโยค >> She is very beautiful. (เธอสวยมาก)
- ลงท้ายด้วย -ly เช่น slowly, quickly, really, nicely
- ไม่ได้ลงท้ายด้วย -ly เช่น well, fast, late, hard, very
Preposition (คำบุพบท)
ใช้บอกตำแหน่ง เวลา สถานที่ การเคลื่อนไหวของสิ่งนั้น ๆ ได้แก่ in, on, at, before, after, with, by, about, without
ตัวอย่างประโยค >> It is on the table. (มันวางอยู่บนโต๊ะ)
Conjunction (คำสันธาน)
ใช้เชื่อมคำ กลุ่มคำ หรือประโยคเข้าด้วยกัน โดยจะสามารถใช้สำหรับความหมายในทางเดียวกันหรือตรงข้ามกันก็ได้ เช่น although, if, when, since, but, and, as__as
ตัวอย่างประโยค >> “Although he is rich, he is not happy.” (แม้ว่าเขาจะรวย แต่เขากลับไม่มีความสุข)
Interjection (คำอุทาน)
ใช้แสดงอารมณ์และความรู้สึก สังเกตได้ง่าย ๆ จากการใช้เครื่องหมายอัศเจรีย์ควบคู่ เช่น Oh! Gosh! Oops! Listen! Hey!
ตัวอย่างประโยค >> “Oh! I can’t believe this.” (โอ้! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย)
บทสรุป
จะเห็นได้ว่า part of speech ไม่ได้ยากอย่างที่คิด และยังเป็นพื้นฐานสำคัญที่ควรจะทำความเข้าใจให้ถี่ถ้วน ก่อนที่จะเรียนภาษาอังกฤษในระดับต่อ ๆ ไป ซึ่งหากต้องการที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ดียิ่งขึ้น สิ่งที่ขาดไม่ได้ ก็คือ จะต้องหมั่นทบทวนเนื้อหา และใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำในชีวิตประจำวัน
หรือหากใครที่ต้องการเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเพื่อเสริมทักษะการทำงาน หรือใช้ในการทดสอบต่างๆ เช่น คอร์สเรียน IELTS ออนไลน์ สามารถเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวด้วยหลักสูตรออนไลน์ได้ที่ Engduo Thailand ที่มีให้คุณเลือกเรียนหลักสูตรได้ตรงตามความต้องการของคุณ
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม
- รวมแอปเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ให้เข้าใจและนำไปใช้ได้จริง
- การสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน มีประโยคไหนต้องติดปาก ไว้รับมือทุกสถานการณ์
- ทำ ข้อสอบ Comparison ยังไงให้ได้คะแนน Top