หลายคนอาจสงสัยว่าสถานการณ์ไหนที่เราควรใช้ in on at และ มีวิธีการใช้ที่แตกกันอย่างไร วันนี้ทางสถาบันสอนภาษาอังกฤษ Engduo Thailand มีเทคนิคดีๆมาบอกเพื่อนๆกัน โดย in on at ที่เราใช้เป็นคำเชื่อมเพื่อบอกเวลาและสถานที่ที่ เรียกว่า คำบุพบท (Prepositions) ซึ่งทำหน้าที่เป็นคำเชื่อม ที่เชื่อมกับคำนาม สรรพนาม หรือวลี โดยหลักๆแล้วการใช้ in on at จะแบ่งเป็น 2 อย่างหลักๆคือ ใช้บอกเวลา กับ สถานที่ เราไปดูกันเลยว่า มีวิธีการจำง่าย ๆ และสามารถนำไปใช้อย่างไรให้ถูกต้อง ถ้าพร้อมแล้วมาเรียนรู้ไปพร้อมๆกันเลยครับ
หลักการใช้ In
เราสามารถใช้ In ไว้บอกช่วงเวลาที่ไม่เฉพาะมากนัก เช่นช่วงเวลาในระหว่างวัน,ช่วงเวลาเช้า/บ่าย/เย็น, อดีต/อนาคต,เดือน/ปี
ยกตัวอย่างเช่น
In October = ในเดือนตุลาคม
In 2015 = ในปี 2015
In the morning = ในตอนเช้า
In the afternoon = ในตอนบ่าย
In the evening = ในตอนเย็น
In the future = ในอนาคต
In the past = ในอดีต
In two hours = ในอีก 2 ชั่วโมง
In the 20th century = ในช่วงศตวรรษที่ 21
ตัวอย่างประโยค In ที่ใช้บอกเกี่ยวกับเวลา
- The doctor will be here to talk to you in a few minutes. (คุณหมอจะมาคุยกับคุณในอีกไม่กี่นาที
- I will meet my friend in the afternoon. (ฉันจะไปเจอเพื่อนของฉันในตอนบ่าย)
- We went to Japan in May. (พวกเราได้ไปประเทศญี่ปุ่นมาในเดือนพฤษภาคม)
- I have to force myself to wake up early in the morning. (ฉันต้องบังคับตัวตื่นในตอนเช้าตรู่)
ตัวอย่างประโยค In ที่ใช้บอกเกี่ยวกับตำแหน่ง และ สถานที่
In Thailand = ในประเทศไทย
In Japan = ในประเทศญี่ปุ่น
In Europe = ในทวีปยุโรป
In New York = ในรัฐนิวยอร์ค
In Bangkok = ในกรุงเทพ
In my room = ในห้องของฉัน
In her car = ในรถของหล่อน
- I was born in Thailand. (ฉันเกิดในประเทศไทย)
- She was studying in Japan for a year. (เธอเคยศึกษาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 ปี)
- I forgot my phone in her car. (ฉันลืมโทรศัพท์ไว้ในรถของหล่อน)
- I like to go to the north of Thailand in the winter. (ฉันชอบไปตอนเหนือของเมืองไทยในหน้าหนาว)
- There are many commercial districts in New York. (มีหลายย่านธุรกิจในรัฐนิวยอร์ค)
การใช้ “In” กับสถานการณ์และสภาพ
คำว่า “in” ยังใช้กับสภาวะหรือสถานการณ์ต่าง ๆ
- สภาวะ (States):
- He is in a good mood. (เขาอารมณ์ดี)
- The company is in financial trouble. (บริษัทกำลังมีปัญหาทางการเงิน)
- เหตุการณ์ (Events):
- She is in a meeting right now. (เธอกำลังอยู่ในที่ประชุมตอนนี้)
- They are in love. (พวกเขากำลังมีความรัก)
หลักการใช้ On
เราสามารถใช้ On เพื่อบอกเกี่ยวกับ เวลา,วัน/วันที่,ตำแหน่ง/สถานที่ หรือ การเดินทางได้
ตัวอย่างการใช้ On กับช่วงเวลา วัน/วันที่
On Monday = ในวันจันทร์
On Friday = ในวันศุกร์
On my birthday = ในวันเกิดของฉัน
On weekends = ในวันหยุด
On Christmas day = ในวันคริสมาสต์ (วันเดียว)
On Songkran day = ในวันสงกรานต์
- I went shopping to buy a present for my mother’s birthday. (ฉันได้ออกไปซื้อของเพื่อซื้อของขวัญในวันเกิดของแม่ของฉัน)
- He often goes to the gym on Monday and Friday. (เขามักจะไปยิมในวันจันทร์ และ ศุกร์)
- She went to the mall on weekends. (หล่อนได้ไปห้างมาในวันหยุด)
- There are many people who splash water on Songkran day. (มีผู้คนมากมายสาดน้ำกันในวันสงกรานต์)
ตัวอย่างการใช้ On ไว้บอกตำแหน่ง/สถานที่ หรือ การเดินทางได้
On the road = บนถนน
On the 8th floor = บนชั้นแปด
On the 2nd floor = บนชั้นสอง
On the table = บนโต๊ะ
On the roof = บนหลังคา
On the tree = บนต้นไม้
On the bus = บนรถบัส
On a bike = บนรถจักรยานยนต์
On the train = บนรถไฟ
On a bicycle = บนรถจักรยาน
*ยกเว้น Car ที่ต้องใช้กับ In เท่านั้น In a car
- There was an accident on the Sukhumvit road. (เกิดอุบัติเหตุขึ้นบนถนนสุขุมวิท)
- I work on the 2nd floor. (ฉันทำงานอยู่บนชั้นสอง)
- My bag is on the table. (กระเป๋าของฉันอยู่บนโต๊ะ)
- There are many apples on that tree. (มีแอปเปิ้ลหลายผลอยู่บนต้นไม้ต้นนั้น)
- He is on the train. (เขาอยู่บนรถไฟ)
- I am on the bus. (ฉันอยู่บนรถบัส)
หลักการใช้ At
ไว้ใช้สำหรับการบ่งบอกเวลาที่มีความเฉพาะเจาะจง เช่น ปัจจุบัน, ช่วงเทศกาลต่างๆ และ ไว้บ่งบอกสถานที่ ที่อยู่ เช่น บริษัท, บ้าน, โรงเรียน, ร้านอาหาร, ห้างสรรพสินค้า, มหาวิทยาลัย
ตัวอย่างการใช้ At ไว้บ่งบอกจุดบอกเวลา, เวลา, ช่วงเทศกาล
At 11 o’clock = ตอน 11 โมง
At noon = ตอนเที่ยง
At lunchtime = ตอนเวลาทานอาหารกลางวัน
At night = ตอนค่ำ
At present = ณ ปัจจุบัน
At the moment = ณ ตอนนี้
At the same time = ในเวลาเดียวกัน
- I will meet her at 11 o’clock. (ฉันจะไปพบเธอตอน 11 โมง)
- She will be here at noon. (เธอจะมาถึงที่นี่ตอนเที่ยง)
- At present several countries are concern about the covid-19 pandemic. (ณ ปัจจุบันหลายประเทศกังวลเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
- I’m busy at the moment. (ฉันกำลังยุ่งอยู่ในตอนนี้)
- Try to go to sleep at the same time every night. (ลองพยายามนอนในเวลาเดิมในทุกๆคืน)
- We give each other presents at Christmas. (พวกเราให้ของขวัญซึ่งกันและกันในช่วงเทศกาลคริสต์มาส)
Engduo Thailand
ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย
ตัวอย่างการใช้ At ไว้บ่งบอกบ่งชี้สถานที่เฉพาะ
At cinema = ที่โรงหนัง
At canteen = ที่โรงอาหาร
At the hospital = ที่โรงพยาบาล
At the school = ที่โรงเรียน
At the university = ที่มหาวิทยาลัย
At the train station = ที่สถานีรถไฟ
At the auditorium = ที่หอประชุม
- I met a friend of mine at the train station yesterday. (ฉันเจอเพื่อนของฉันที่สถานีรถไฟเมื่อวานนี้)
- He will announce his achievement at the auditorium tomorrow. (เขาจะประกาศความสำเร็จของเขาที่หอประชุมในวันพรุ่งนี้)
- My father works at the hospital (พ่อของฉันทำงานอยู่ที่โรงพยาบาล)
- She was at the cinema last night. (หล่อนอยู่ที่โรงหนังเมื่อคืนนี้)
สรุป
เราสามารถใช้ in เพื่อบอกเกี่ยวกับในช่วงเวลา หรือ สถานที่ที่ใหญ่ๆ เช่น In Thailand ส่วนการใช้ On จะใช้เกี่ยวกับ วัน หรือ วันที่ หรือที่เกี่ยวกับบางสิ่งที่อยู่บนบางสิ่ง ไม่ใช่ข้างใน เช่น on Friday, on 23 August 1990 หรือ on the road ส่วนการใช้ at นั้น จะใช้ระบุในสถานที่ที่เฉพาะเจาะจง หรือเวลาที่แน่นอน เช่น at the moment, at the school
หวังว่าเพื่อนๆ จะพอเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ in on at มากขึ้นนะครับ เราสถาบันสอนภาษาอังกฤษ Engduo Thailand ขอเป็นกำลังให้เพื่อนทุกคนที่กำลังฝึกฝนภาษาอังกฤษนะครับ สำหรับใครที่สนใจการเรียนภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสื่อสารทั่วไป หรือใช้เพื่อการทำงาน หรือต้องสัมภาษณ์เข้าทำงาน เรามีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวออนไลน์ที่สามารถตอบโจทย์ผู้เรียนได้ทุกรูปแบบนะครับ และยังสามารถออกแบบคอร์สได้ตามต้องการอีกด้วย ถ้าเพื่อนๆสนใจสามารถติดต่อเราได้เลยนะครับ 😃
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม
- Phrasal Verb ที่ใช้บ่อย ในชีวิตประจำวัน
- การใช้ Although / Though / Even though / In spite of / Despite คืออะไร ใช้ยังไง และแตกต่างกันอย่างไร