มีผู้กล่าวว่า Collocation คือปัญหาที่ทำให้คนไทยใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างไม่เป็นธรรมชาติ เพราะเราเรียนสองอย่างเป็นหลักคือคำศัพท์และไวยากรณ์ แล้วคุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า Collocation คืออะไร ใช้อย่างไร ความจริงเราเชื่อว่าคุณต้องเคยเจอ Collocation มาบ้างแล้ว เพราะมันอยู่ในกลุ่มคำที่พบได้ในชีวิตประจำวัน เพียงแต่คุณอาจไม่รู้ว่ากลุ่มคำที่เจอนั้นคือสิ่งนี้ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปทำความรู้จักกลุ่มคำประเภทนี้กันดีกว่าครับ
Collocation คืออะไร ทำไมจึงมีความสำคัญ
Collocation หรือที่ในภาษาไทยเรียกว่า “คำปรากฏร่วม” คือการรวมกันของคำตั้งแต่สองคำขึ้นไป โดยจะมีความหมายเปลี่ยนไปจากเดิม (แบบแปลตรงตัวไม่ได้) หรือไม่เปลี่ยนไปจากเดิมก็ได้ สิ่งสำคัญคือเป็นคำที่ใช้คู่กันในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือเขียน บางคู่คำแม้ว่าจะมีคำอื่นที่ใช้แล้วให้ความหมายใกล้เคียงกันแต่เจ้าของภาษาก็เลือกใช้คำที่เป็น Collocation มากกว่า เช่นในภาษาไทยเราพูดได้ทั้งฝนตกหนัก / ฝนตกแรง / ลมแรง ในภาษาอังกฤษก็ใช้ heavy rain และ strong wind โดยไม่ใช้ strong rain หรือ hard rain โดย Collocation มีอย่างน้อย 7 ประเภทคือ
- Adverb + Adjective เช่น highly skilled, absolutely necessary และ extremely excited
- Adjective + Noun เช่น fresh air และ heavy rain
- Noun + Noun เช่น traffic jam, coffee cup และ mobile phone
- Noun + Verb ส่วนใหญ่จะเป็นการบอกว่าคำนามตัวไหนมักใช้คู่กับคำกริยาตัวไหนเช่น doorbell ring
- Verb + Noun เช่น make coffee, do homework และ take notes
- Verb + Preposition เช่น listen to และ talk about
- Verb + Adverb เช่น run quickly และ speak softly
เหตุที่ Collocation มีความสำคัญจนคนเรียนภาษาอังกฤษจำเป็นต้องทำความเข้าใจก็เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ทั้งโดยผ่านการพูดและการเขียน เป็นกลุ่มคำที่เจ้าของภาษาใช้กันตามปกติ Collocation มีทั้งที่ความหมายตรงตัวแบบเห็นแล้วเข้าใจได้ทันทีถ้ารู้ความหมายของคำที่มารวมกัน หรือแบบที่มีความหมายเฉพาะ ฉะนั้นจึงต้องอาศัยการเรียนรู้และฝึกใช้ให้เกิดความคุ้นเคย นอกจากนี้บ่อยครั้งในการสอบ (เช่น IELTS) Collocation นี่แหละคือตัววัดว่าคุณเข้าใจภาษาอังกฤษจริงหรือไม่ ฉะนั้นคนที่จะสอบเพื่อเรียนในระดับที่สูงขึ้น เรียนต่อต่างประเทศ หรือเพื่อการทำงาน ก็จำเป็นต้องเข้าใจเรื่องนี้
สิ่งที่ต้องบอกอีกอย่างคือเมื่อคุณใช้ Collocation ผิด ผู้ฟังยังคงเข้าใจคุณ (ถ้าคุณเลือกใช้คำศัพท์ได้ตรงตามความหมาย) แต่ภาษาอังกฤษที่คุณใช้จะดูไม่เป็นธรรมชาติ เพราะไม่ตรงกับที่เจ้าของภาษาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น หากคุณพูดว่า strong rain คนฟังส่วนใหญ่ก็เข้าใจว่าคุณหมายถึง heavy rain เพราะฉะนั้นแม้ว่าการสื่อสารด้วย Collocation ที่ไม่ถูกต้องจะไม่ส่งผลต่อความเข้าใจ แต่การเลือกใช้ได้อย่างถูกต้องจะทำให้คุณสื่อสารได้คล่องขึ้นทั้งการพูดและการเขียน รวมถึงทำให้ภาษาอังกฤษมีความเป็นธรรมชาติและเข้าใจเจ้าของภาษาได้มากขึ้นอีกด้วย
ฝึก Collocation จากไหนได้บ้าง
ได้บอกไปแล้วว่า Collocation อยู่ในชีวิตประจำวันของเจ้าของภาษา ไม่ว่าคุณจะเรียนภาษาอังกฤษหรือภาษาอะไรก็ตาม ฉะนั้นการฝึก collocation ที่ดีที่สุดคือการทำความคุ้นเคยกับภาษา โดยการอ่าน ดู และฟังจะทำให้เราได้ Collocation มากขึ้น ส่วนการพูดและเขียนก็จะช่วยให้ฝึกใช้ Collocation จนกระทั่งสามารถใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนถ้าจะหาความหมายของกลุ่มคำประเภทนี้ พจนานุกรมภาษาอังกฤษช่วยคุณได้ เช่น
– Longman Collocations Dictionary and Thesaurus
– Macmillan Collocations Dictionary
– Oxford Collocations Dictionary
– พจนานุกรมออนไลน์ เช่นเว็บดิคของ Longman เมื่อเราพิมพ์คำศัพท์ลงไปและคำนั้นมี collocation ก็จะมีส่วนหนึ่งในหน้าเว็บที่อธิบายจุดนี้โดยจะอยู่หลังจากความหมายและตัวอย่างประโยค
ตัวอย่าง Collocation ที่พบบ่อย
ปิดท้ายวันนี้ เมื่อเข้าใจความหมาย ประเภท ความสำคัญ และแหล่งที่เราจะพบ Collocation ได้แล้ว ก็มาดูตัวอย่าง Collocation ที่พบบ่อยกันดีกว่า ซึ่งตัวอย่างที่เลือกมาให้ดูในวันนี้จะเน้นไปที่ Collocation จากคำกริยาเป็นหลัก เพราะพบได้บ่อยและหลายคำก็อาจทำให้คุณสับสนได้
– have breakfast / lunch / dinner / a snac = กินมื้อเช้า / มื้อกลางวัน / มื้อเย็น / ของว่าง
– take a shower / bath = อาบน้ำ
– take a bus / train / taxi = ขึ้นรถบัส / รถไฟ / แท็กซี่
– take a break / take a rest = พักจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ
– pay (ที่ไม่เกี่ยวกับการจ่ายเงิน) เช่น pay attention = ใส่ใจ ตั้งใจ pay someone a compliment = ชมเชยใครสักคน
– break a promise = ผิดสัญญา
– catch a cold / have a cold = เป็นหวัด
– get married / divorced = แต่งงาน / หย่าร้าง นอกจากนี้ get ยังใช้กับอารมณ์ได้ด้วยเช่น get angry = โกรธ
– ตัวอย่าง Collocation ที่ใช้กับ make เช่น make breakfast (ทำอาหารเช้า) / make the bed (จัดเตียง) / make money (หาเงิน) / make a mistake (ทำผิดพลาด) / make a decision (ตัดสินใจ)
– ตัวอย่าง Collocation ที่ใช้กับ do เช่น do homework (ทำการบ้าน) / do exercise (ออกกำลังกาย) / do the dishes (ล้างจาน) / do a favor (ให้ความช่วยเหลือ) / do business (ทำธุรกิจ)
การฝึก Collocation ก็เช่นเดียวกับทักษะอื่นในภาษาอังกฤษคือต้องอาศัยการฝึกฝนเป็นประจำทั้งการเรียนรู้คำศัพท์เพิ่มเติมและการฝึกนำไปใช้ ซึ่งถ้ายังไม่รู้จะเริ่มจากที่ไหนดี คอร์สเรียนภาษาอังกฤษแบบออนไลน์ ช่วยคุณได้ครับ ไม่ว่าจะเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสอบหรือเพื่อการทำงาน อย่างน้อยสิ่งที่คุณได้เพิ่มมาในทันทีคือการได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในหลายด้านไปพร้อม ๆ กัน แนะนำให้อ่าน รีวิวคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ เพิ่มเติมกับ Engduo Thailand เพื่อเพิ่มระดับความเชี่ยวชาญในการใช้ภาษาอังกฤษได้มากยิ่งขึ้น
และเมื่ออ่านรีวิวแล้วอยากเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับสถาบันสอนภาษาอังกฤษ Engduo Thailand ก็สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้เลย เพราะที่นีมีการเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว แถมยังมีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษให้เลือกเรียนอย่างมากมาย ทั้งเพื่อการสื่อสาร, สำหรับเด็ก, สำหรับสัมภาษณ์งาน รวมไปถึงการเตรียมตัวสอบ IELTS ก็มีเช่นกัน