บทสนทนาทางโทรศัพท์ ภาษาอังกฤษ รวมหลากหลายสถานการณ์ที่คุณนำไปใช้ได้ในออฟฟิศ

บทสนทนาทางโทรศัพท์ ภาษาอังกฤษ

หนึ่งในทักษะจำเป็นของการทำงานออฟฟิศคือการสื่อสารทางโทรศัพท์ ซึ่งทุกวันนี้หลายบริษัทก็มีความจำเป็นต้องติดต่อกับชาวต่างชาติ ทั้งที่เป็นพนักงานในบริษัทและสายจากภายนอกที่ติดต่อเข้ามา การรู้ บทสนทนาทางโทรศัพท์ ภาษาอังกฤษ พื้นฐานเพื่องานออฟฟิศเอาไว้ จึงเป็นสิ่งจำเป็น หากนี่คือสิ่งที่เพื่อน ๆ สนใจ วันนี้เราเตรียมประโยคจำเป็นเกี่ยวกับบทสนทนาทางโทรศัพท์มาให้หลายประโยคที่นำไปใช้ได้จริง

 

ประโยค บทสนทนาทางโทรศัพท์ ภาษาอังกฤษ เริ่มต้นรับสายและถามถึงวัตถุประสงค์การโทรมา

หากเป็นงานบริษัท การทักทายจะมีโครงสร้าง 3 ส่วนคือ สวัสดี – บอกชื่อแผนกหรือบอกชื่อบริษัท (กรณีเป็นสายนอก) และชื่อคนที่พูดสาย – ถามว่าเราจะช่วยอะไรได้บ้าง ลองสังเกตตัวอย่างนี้

Good afternoon, HR department, Jay speaking. How can I help you?

(สวัสดีครับ ที่นี่ฝ่ายบุคคล ผมเจย์พูดครับ ต้องการให้ช่วยอะไรครับ

 

หลังจากนี้ คนที่โทรมาจะบอกเราว่าเขาต้องการอะไร เช่น

May I speak to …, please?

(ผมขอพูดกับคุณ … ได้ไหมครับ)

 

คำถามนี้ตอบได้ไม่ยาก โดยเรานำมาให้สองประโยค หากคุณรู้แล้วว่าใครเป็นคนโทรมา ให้นำประโยคที่สองไปใช้ได้เลย แต่หากยังไม่รู้ ก็จำเป็นต้องถามด้วยประโยคแรก

– Excuse me. Who’s speaking? / Excuse me. Who’s calling?

(ขอโทษนะครับ ใครกำลังพูดสายอยู่ครับ / ขอโทษครับ ใครเป็นคนโทรมาครับ)

– Hold on, please.

(ถือสายรอสักครู่นะครับ)

 

หากเราเป็นฝ่ายโทรไป และต้องบอกสิ่งที่เราต้องการ สามารถใช้โครงสร้างประโยค I’m calling to … / I’m calling about … (ผมโทรมาเรื่อง …) ในการเริ่มต้นหลังจากการทักทายจากผู้รับสายได้ เช่น

– I’m calling to register for the upcoming conference.

(ผมโทรมาเพื่อจะลงชื่อเข้าร่วมการประชุมครับ)

– I’m calling about our appointment tomorrow.

(ผมโทรมาเรื่องนัดวันพรุ่งนี้ครับ)

– I’m calling to let you know that I’m interested in your project.

(ผมโทรมาเพื่อแจ้งให้คุณทราบว่าผมสนใจโครงการของคุณ)

 

ประโยค บทสนทนาทางโทรศัพท์ ภาษาอังกฤษ เมื่อต้องรับฝากข้อความ

หลายครั้งคนที่อีกฝ่ายต้องการคุยด้วยอาจไม่ว่าง ออกไปข้างนอก ติดประชุม ฯลฯ เราจึงจำเป็นต้องรับฝากข้อความ ซึ่งจะมีโครงสร้าง 3 ส่วนคือ เริ่มด้วยการขอโทษ – บอกเหตุผลว่าเขาไม่ว่างหรือไม่อยู่ – ปิดท้ายด้วยการเสนอให้ความช่วยเหลือด้วยการรับฝากข้อความ เช่น

– I’m sorry. He’s not available at the moment. Would you like to leave a message?

(ขอโทษครับ ตอนนี้เขาไม่ว่างครับ คุณต้องการฝากข้อความอะไรไว้ไหมครับ)

– I’m sorry. She is in the meeting. Would you like to leave a message?

(ตอนนี้เขาติดประชุมอยู่ครับ คุณต้องการฝากข้อความอะไรไว้ไหมครับ)

– I’m sorry. He’s on another call. – Can I take a message?

(ตอนนี้เขาติดสายอยู่ครับ ให้ผมรับข้อความอะไรไว้ไหมครับ)

 

หมายเหตุ: สองประโยคแรกซึ่งใช้ Would like นิยมใช้กันมากกว่า แต่ถ้าเป็นคนที่คุ้นเคยกันดีอย่างเช่น เรารู้จักคนที่โทรมา ก็สามารถใช้ประโยคที่สามได้

 

หากเราเป็นฝ่ายโทรไป หลังจากรู้ว่าคนที่ต้องการคุยด้วยไม่ว่าง โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ถามเรื่องฝากข้อความ เราอาจถามว่า

– Can I leave a message?

(ผมฝากข้อความไว้ได้ไหมครับ)

 

สำหรับการตอบ ถ้าคนที่โทรมาไม่ต้องการฝากข้อความ เขาจะบอกว่า

– No, thanks. I’ll call back later.

(ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมโทรกลับมาใหม่)

 

แต่ถ้าต้องการฝากข้อความ ก็จะพูดได้สองแบบ คือ

แบบแรก: ตอบด้วย Yes. แล้วตามด้วยประโยค Could you ต่อด้วยสิ่งที่ต้องการให้ทำ วิธีนี้เป็นการขอร้องอย่างสุภาพ มาดูตัวอย่างประโยค ดังนี้

– Yes. Could you ask him / her to call me back?

(ครับ ช่วยบอกเขาให้โทรกลับมาหาผมด้วย) โดยเราจะใช้ him สำหรับผู้ชาย และ her สำหรับผู้หญิง

– Yes. Could you ask him / her to call me back as soon as possible? It’s quite urgent.

(ครับ ช่วยบอกเขาให้โทรกลับหาผมโดยเร็วที่สุดนะครับ เพราะมันค่อนข้างเร่งด่วน)

 

แบบที่สอง: ใช้ Please ตามด้วยสิ่งที่ต้องการฝากให้อีกคนไปทำ

– Please ask him / her to call me back.

(ช่วยบอกเขาให้โทรกลับหาผมด้วยนะครับ)

– Please remind him / her that he / she has an appointment tomorrow.

(ช่วยเตือนเขาด้วยนะครับว่าเขามีนัดวันพรุ่งนี้)

รายละเอียดคอร์สเรียน

รวม บทสนทนาทางโทรศัพท์ ภาษาอังกฤษ อีก 4 สถานการณ์น่าสนใจ

  1. เมื่อคนที่โทรเข้ามาโทรผิดเบอร์ เราจะบอกได้ว่า

– Sorry, I think you call to the wrong number.

(ขอโทษครับ คุณโทรผิดแล้วครับ)

 

  1. เมื่อมีคนโทรมาหาเรา หลังจากรับเรื่องแล้วเราจัดการให้ไม่ได้ แต่รู้ว่าจะต้องโอนสายไปที่ไหนซึ่งจะจัดการเรื่องนั้นได้ สามารถนำประโยคต่อไปนี้ไปใช้ได้

– Hold on, please. I’ll connect you to the person in charge of it.

(ถือสายรอสักครู่นะครับ ผมจะโอนสายไปให้คนที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงครับ)

 

  1. เมื่อต้องการขอให้พูดซ้ำ พูดดังขึ้น หรือสะกดชื่อและอีเมล สามารถนำประโยคเหล่านี้ไปใช้ได้

– Could you speak up, please?

(รบกวนพูดดังขึ้นหน่อยได้ไหมครับ)

– Could you say it again, please?

(ช่วยพูดใหม่ได้ไหมครับ)

– Sorry, what was that again?

(ขอโทษนะครับ เมื่อครู่คุณพูดว่าอะไรนะครับ)

– Could you spell your last name out, please?

(รบกวนช่วยสะกดนามสกุลของคุณได้ไหมครับ)

– Could you spell your email, please?

(คุณช่วยสะกดอีเมลให้ผมหน่อยได้ไหมครับ)

 

  1. เมื่อมีใครโทรมาหาเรา และเราไม่สะดวกคุยตอนนี้ หรืออาจต้องใช้เวลาหาข้อมูลสักพักในเรื่องที่เขาถามมา และจะโทรกลับไปทีหลัง อาจบอกได้ว่า

– Can I get your number? I’ll call you back in 10 minutes.

(ขอเบอร์ติดต่อกลับได้ไหมครับ ผมจะโทรกลับไปภายใน 10 นาที)

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หลายประโยคในวันนี้ เพื่อน ๆ น่าจะนำไปใช้ได้ ซึ่งในสถานการณ์จริง บทสนทนาทางโทรศัพท์ยังมีรายละเอียดมากกว่านี้ เช่น เรื่องที่โทรมา หรือความต้องการของเราที่โทรไปหาใครสักคน ทั้งหมดนี้เพื่อน ๆ จะอธิบายได้ก็ต่อเมื่อฝึกฝนเพิ่มเติม ซึ่งการฝึกพูดโดยการ เรียนคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ จะช่วยได้มาก แม้ว่าต้องลงทุนบ้าง แต่ก็คุ้มค่ากับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้เชี่ยวชาญและนำไปใช้ได้จริง

ทั้งนี้ Engduo Thailand มีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษมากมาย ทั้งแบบเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก ภาษาอังกฤษเพื่อสัมภาษณ์งาน หรือสำหรับการทำงาน สามารถดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ได้เลยนะครับ

อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม

Engduo Thailand

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตัวต่อตัว พูดได้ชัวร์ ใช้ได้จริง

Engduo Thailand

ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย

FB: Engduo Thailand

Messenger

Line: @engduo

Tel: 0988268961

ที่มาข้อมูล

  • https://engenjoy.blogspot.com/2014/01/telephone.html
  • https://ภาษาอังกฤษออนไลน์.com/telephone-conversation/
  • https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/59039

บทความของเรา

ดูบทความทั้งหมด