รวม 4 สถานการณ์บทสนทนาภาษาอังกฤษที่คนค้าขายควรรู้!

รวม 4 สถานการณ์บทสนทนาภาษาอังกฤษที่คนค้าขายควรรู้!

สำหรับคนทำการค้าขาย ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีหน้าร้านหรือค้าขายออนไลน์ หากถามว่าภาษาอังกฤษจำเป็นหรือไม่ ใครที่ไม่เคยขายของให้ชาวต่างชาติ อาจคิดว่าไม่จำเป็น แต่ถ้ามองอีกแง่หนึ่ง สำหรับเมืองไทยที่มีชาวต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมาก การรู้ บทสนทนาภาษาอังกฤษ ที่จำเป็นเอาไว้บ้างก็จะเพิ่มโอกาสให้คุณมีฐานลูกค้ากว้างขึ้นได้ วันนี้เราจัดมาให้แล้วกับ 4 สถานการณ์ที่จำเป็น

บทสนทนาภาษาอังกฤษเมื่อลูกค้าถามหาของที่ต้องการ

เมื่อลูกค้าเข้ามาที่ร้าน นอกจากประโยคทั่ว ๆ ไปอย่างการสวัสดีที่ทุกคนคุ้นเคยอยู่แล้ว เรายังสามารถเสนอความช่วยเหลือให้ลูกค้าได้ด้วย โดยใช้ประโยคต่อไปนี้

Shopkeeper: Can I help you? / What can I do for you?

(มีอะไรให้ช่วยไหมครับ) สิ่งที่ลูกค้าอาจจะตอบมา เช่น

Customer: I’m looking for a pair of shoes to go with this dress.

(ฉันกำลังหารองเท้าที่เข้ากับชุดนี้) หรือหากลูกค้าไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือ ก็อาจจะตอบว่า

Customer: I’m just browsing around, thank you.

(ไม่เป็นไรครับ/ค่ะ ผม/ฉันแค่เดินดูของไปเรื่อย ๆ )

 

เมื่อลูกค้าถามถึงสินค้าที่ในร้านมีขาย หลังจากการทักทายและเสนอให้ความช่วยเหลือแล้ว ต่อไปนี้คือตัวอย่างบทสนทนาที่เป็นไปได้

Customer: I’m looking for a new pair of running shoes.

(ผมกำลังมองหารองเท้าวิ่งคู่ใหม่)

Shopkeeper: Sure! What type of running do you do?

(ได้เลยครับ คุณเป็นนักวิ่งประเภทไหน)

Customer: Road running.

(วิ่งถนนครับ)

Shopkeeper: How about this one?

(ถ้าเป็นอันนี้ล่ะครับ ดีมั้ย)

 

กรณีลูกค้าถามถึงสินค้าแล้วไม่มีขาย ประโยคต่อไปนี้สามารถนำไปใช้ได้

I’m sorry, we are out of …

(ต้องขอโทษด้วยครับ สินค้ารายการนี้ของเราหมดแล้ว) โดยที่ … คือชื่อสินค้าที่ลูกค้าถาม

I’m sorry, we’re currently out of stock on (this one). Would you like to check out some similar items we have?

(ขอโทษด้วยครับ สินค้ารายการนี้ไม่มีในสต็อกแล้ว คุณต้องการดูของอย่างอื่นที่คล้ายกันที่เรามีหรือเปล่าครับ) โดย this one สามารถแทนด้วยชื่อสินค้าได้

 

และอีกเรื่องที่อาจเกี่ยวกับสถานการณ์นี้คือ เมื่อจะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ใช้ประโยคต่อไปนี้ถามลูกค้าได้

Is there anything else I can help you with? / What else can I do for you?

(มีอะไรอย่างอื่นให้ช่วยอีกหรือเปล่าครับ)

 

บทสนทนาภาษาอังกฤษ เมื่อลูกค้าถามราคาสินค้า

ประโยคง่ายที่สุดในการถามราคาซึ่งคนขายอาจได้ยินหรือได้รับข้อความจากลูกค้าคือ

How much is it / this pair of shoes?

(ของชิ้นนี้ / รองเท้าคู่นี้ราคาเท่าไหร่) การตอบก็ง่าย ๆ ครับ ใช้ It’s ตามด้วยราคาได้เลย

 

สำหรับการถามราคา บางครั้งลูกค้าอาจถามถึงโปรโมชั่น เช่น

Customer: Do you have any promotions or discounts associated with XXX credit card?

(คุณมีส่วนลดหรือโปรโมชั่นสำหรับบัตรเครดิต XXX หรือเปล่าครับ) ซึ่งถ้ามีส่วนลด ก็อาจตอบได้ว่า

Shopkeeper: Yes, customers with XXX credit card will get 20% off on every purchase.

(มีครับ ลูกค้าที่มีบัตร XXX จะได้รับส่วนลด 20% ในทุก ๆ การซื้อ)

รายละเอียดคอร์สเรียน

บทสนทนาภาษาอังกฤษเมื่อมีการต่อรองราคา

ในการซื้อสินค้า เป็นเรื่องปกติที่การต่อรองราคาเกิดขึ้นได้ ซึ่งประโยคต่อไปนี้อาจเป็นประโยคที่ลูกค้าพูดเมื่อรู้สึกว่าราคาแพงเกินไป

Customer: Excuse me, how much is this watch?

(ขอโทษนะครับ นาฬิกาเรือนนี้ราคาเท่าไหร่)

Shopkeeper: It’s ฿2000.

(สองพันบาทครับ)

Customer: It’s a bit more than I’d like to pay. Can you give me a discount?

(ราคาแพงกว่าที่ผมคิดว่าอยากจะจ่าย ให้ส่วนลดหน่อยได้มั้ยครับ) ซึ่งลูกค้าอาจจะเสนอราคาที่ต้องการมาเลยก็ได้ เช่น

Customer: It’s a bit more than I’d like to pay. How about ฿1700.

(ราคาแพงกว่าที่ผมคิดว่าอยากจะจ่าย ถ้าเป็น 1700 บาทได้มั้ย) เมื่อเป็นแบบนี้ คำตอบที่เป็นไปได้จะมีอย่างน้อยสองแบบคือ

Shopkeeper: ฿1800 is the best price I can give you.

(1800 บาทคือราคาดีที่สุดเท่าที่ผมจะให้คุณได้ครับ) หรือถ้าตอบรับ คำตอบก็จะเป็น

Shopkeeper: Ok. You can have it for ฿1700.

(ได้ครับ ผมให้คุณในราคา 1700 บาท)

 

บทสนทนาภาษาอังกฤษ เมื่อลูกค้าถามเรื่องการจ่ายเงิน

คำถามนี้เป็นการตอบด้วย Yes / no ส่วนใหญ่ลูกค้าจะถามเรื่องการใช้บัตร เช่น

Can I pay by credit card?

(จ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ไหมครับ)

Do you take credit cards?

(ที่นี่รับบัตรเครดิตไหมครับ) เช่นเดียวกัน หากคุณจะถามวิธีที่ลูกค้าต้องการจ่ายเงิน ก็ถามได้ว่า

Would you like to pay by cash or credit card?

(คุณต้องการชำระเงินด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิตครับ)

 

ปิดท้ายอีกหนึ่งเรื่องที่อาจไม่เกี่ยวกับการชำระเงินโดยตรง แต่สำหรับสินค้าบางอย่าง นี่อาจเป็นสิ่งที่ลูกค้าสงสัย

 

Customer: Do you have a refund policy?

(มีนโยบายรับคืนสินค้าหรือเปล่าครับ)

Shopkeeper: Yes, you have to keep the receipt and bring the item back in the same conditions within 2 weeks.

(มีครับ โดยคุณต้องนำใบเสร็จมาพร้อมสินค้าที่อยู่ในสภาพเดิมภายในสองสัปดาห์)

 

นอกจากประโยคเหล่านี้แล้ว สิ่งสำคัญคือคุณต้องฝึกภาษาอังกฤษเป็นประจำเพื่อให้ใช้ได้ทันทีที่จำเป็น อาจใช้ตัวช่วยอย่างแอปเรียนภาษาหรือแม้แต่คอร์ส เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ซึ่งทุกวันนี้ทั้งแอปและคอร์สเรียนต่างก็มีให้เลือกอย่างหลากหลายตั้งแต่เรียนเพื่อใช้งานทั่วไป หรือแม้แต่เรียนเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น เตรียมสอบหรือสัมภาษณ์งาน หากเลือกคอร์สได้เหมาะกับตัวเอง รับรองว่าเกิดประโยชน์ในระยะยาวอย่างแน่นอน

และหากใครกำลังมองหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับสถาบันสอนภาษาอังกฤษก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Engduo Thailand ได้เลย เพราะที่นีมีการเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว แถมยังมีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษให้เลือกเรียนอย่างมากมาย ทั้งเพื่อการสื่อสาร, สำหรับเด็ก, สำหรับสัมภาษณ์งาน รวมไปถึงการเตรียมตัวสอบ IELTS ก็มีเช่นกัน และถึงแม้อยากเรียนภาษาอังกฤษ ไม่มีพื้นฐานก็อย่าไปกลัว สามารถมาสมัครเรียนได้ที่ Engduo Thailand ได้เลย

Engduo Thailand

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตัวต่อตัว พูดได้ชัวร์ ใช้ได้จริง

Engduo Thailand

ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย

FB: Engduo Thailand

Messenger

Line: @engduo

Tel: 0988268961

บทความของเรา

ดูบทความทั้งหมด