เรียนรู้การ พูดเรื่องสมมุติในภาษาอังกฤษ อย่างถูกต้อง พร้อมโครงสร้างประโยค ตัวอย่างการใช้จริง และเทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้การสื่อสารของคุณราบรื่นไม่มีสะดุด
พูดเรื่องสมมุติในภาษาอังกฤษ พูดเหมือนของไทยหรือเปล่า
ภาษาไทยและภาษาอังกฤษมีวิธีการพูดเรื่องสมมุติที่คล้ายคลึงกันในแนวคิด แต่แตกต่างกันในเชิงโครงสร้างไวยากรณ์และการเลือกใช้คำ ตัวอย่างเช่น ในภาษาไทยเรามักใช้คำนำหน้าเช่น “ถ้า” หรือ “หาก” เพื่อบอกถึงสถานการณ์ที่เป็นไปได้หรือไม่เป็นจริง เช่น “ถ้าฉันรวย ฉันจะซื้อบ้านหลังใหญ่” ในภาษาอังกฤษจะใช้ “if” เป็นคำเริ่มต้น เช่น If I were rich, I would buy a big house.
ความแตกต่างที่สำคัญ
- โครงสร้างประโยค
- ภาษาไทย: ใช้คำเชื่อมแบบง่ายและมีลำดับคำที่ยืดหยุ่น
- ภาษาอังกฤษ: ต้องการรูปแบบไวยากรณ์ที่ชัดเจน เช่น การเปลี่ยน tense ตามประเภทของสมมุติ
- การแบ่งประเภทของสมมุติ
- ภาษาไทยมักไม่เน้นการแบ่งชัดเจนระหว่างสถานการณ์จริงและไม่จริง
- ภาษาอังกฤษแบ่งสมมุติออกเป็น 3 ประเภทหลัก: สมมุติที่เป็นจริง (Real Conditional), สมมุติที่ไม่จริงในปัจจุบัน (Unreal Present), และสมมุติที่ไม่จริงในอดีต (Unreal Past)
ตัวอย่างการเปรียบเทียบภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
- ภาษาไทย: ถ้าฝนตก ฉันจะไม่ไปตลาด
- ภาษาอังกฤษ: If it rains, I will not go to the market.
- ภาษาไทย: ถ้าฉันเป็นนก ฉันจะบินได้
- ภาษาอังกฤษ: If I were a bird, I could fly.
เมื่อจะสมมุติต้องพูดอย่างไร
เมื่อพูดถึงเรื่องสมมุติในภาษาอังกฤษ สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้โครงสร้างที่เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยมีหลักการเบื้องต้นดังนี้:
- เลือกประเภทของสมมุติ
- Real Conditional (สมมุติที่เป็นจริง) ใช้พูดถึงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจริงในอนาคต
โครงสร้าง: If + Present Simple, … will + base verb เช่น If I finish my homework, I will watch TV.
- Unreal Present (สมมุติที่ไม่จริงในปัจจุบัน) ใช้พูดถึงสิ่งที่ไม่เป็นจริงในปัจจุบันหรืออนาคต
โครงสร้าง: If + Past Simple, … would/could/might + base verb เช่น “If I were rich, I would travel the world.”
- Unreal Past (สมมุติที่ไม่จริงในอดีต) ใช้พูดถึงสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงในอดีต
โครงสร้าง: If + Past Perfect, … would/could/might have + past participle เช่น If I had studied harder, I would have passed the exam.
- คำเชื่อมอื่น ๆ นอกเหนือจาก If
- ใช้ What if เพื่อเริ่มต้นคำถามสมมุติ What if we missed the train?
- ใช้ Suppose หรือ Imagine เพื่อสร้างประโยคสมมุติ Suppose you won the lottery. What would you do?”
โครงสร้างต่าง ๆ ที่นำไปใช้เมื่อพูดเหตุการณ์สมมุติ
- Real Conditional (สมมุติที่เป็นจริง) ใช้พูดถึงสถานการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในปัจจุบันหรืออนาคต
โครงสร้าง: If + Present Simple, … will/can/may + base verb
ตัวอย่าง
If it rains tomorrow, we will cancel the picnic. ถ้าพรุ่งนี้ฝนตกเราจะยกเลิกไปปิคนิคกัน
If you study hard, you can achieve your goals. ถ้าเราเรียนหนักเราจะสำเร็จตามเป้าหมาย
- Unreal Present (สมมุติที่ไม่จริงในปัจจุบัน) ใช้พูดถึงสิ่งที่ไม่เป็นจริงในปัจจุบัน
โครงสร้าง: If + Past Simple, … would/could/might + base verb
ตัวอย่าง
If I were a millionaire, I would buy a mansion. ถ้าฉันเป็นเศรษฐีฉันจะซื้อคฤหาสน์สักหลัง (ความจริง:ในขณะที่พูดฉันไม่ได้เป็นเศรษฐี)
If she knew the answer, she could tell us. ถ้าเธอรู้คำตอบเธอคงบอกเรา (ความจริง:เธอไม่รู้คำตอบ)
- Unreal Past (สมมุติที่ไม่จริงในอดีต) ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นในอดีต
โครงสร้าง: If + Past Perfect, … would/could/might have + past participle
ตัวอย่าง
If I had known about the meeting, I would have attended. ถ้าผมรู้เรื่องการประชุมผมคงเข้าร่วมประชุม (ความจริง :เขาไม่รู้ว่ามีการประชุม เขาจึงไม่ได้เข้าร่วมการประชุม)
If they had arrived earlier, they could have caught the train. หากพวกเขามาถึงเร็วกว่านี้ พวกเขาก็คงจะขึ้นรถไฟได้ (ความจริง :พวกเขามาช้า จึงขึ้นรถไฟไม่ทัน)
- การใช้ What if ใช้ตั้งคำถามหรือสมมุติสถานการณ์
ตัวอย่าง
What if we don’t finish the project on time? จะเป็นอย่างไรถ้าเราทำโครงการไม่เสร็จตรงเวลา?
What if you were the CEO of this company? จะเป็นอย่างไรหากคุณเป็น CEO ของบริษัทนี้?
- การใช้ Suppose หรือ Imagine ใช้เพื่อให้ผู้อื่นคิดหรือจินตนาการถึงสถานการณ์สมมุติ
ตัวอย่าง
Suppose you were invisible for a day. What would you do? สมมติว่าคุณล่องหนได้หนึ่งวัน คุณจะทำอะไร?
Imagine living on a deserted island. How would you survive? ลองนึกภาพการใช้ชีวิตบนเกาะร้าง คุณจะรอดได้อย่างไร?
ตัวอย่างประโยค พูดเรื่องสมมุติในภาษาอังกฤษ พร้อมนำไปใช้จริง
- สมมุติเกี่ยวกับอนาคต
- If I get a scholarship, I will study abroad. ถ้าฉันได้ทุนฉันจะไปเรียนต่างประเทศ
- If we win the match, we will celebrate together. ถ้าเราชนะการแข่งขันเราจะฉลองด้วยกัน
- If the weather is nice tomorrow, we can have a picnic. ถ้าพรุ่งนี้อากาศดี เราอาจไปปิกนิกกันได้
- If she applies for the job, she might get it. ถ้าเธอสมัครงานนี้ เธออาจจะได้งาน
- What if the project gets delayed? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าโครงการล่าช้า
- If they arrive early, we will start the meeting on time. ถ้าพวกเขามาเร็ว เราจะเริ่มประชุมตรงเวลา
- If you study harder, you can achieve your dreams. ถ้าคุณขยันเรียนมากขึ้น คุณสามารถทำตามฝันได้
- If I save enough money, I will buy a new car. ถ้าฉันเก็บเงินได้เพียงพอ ฉันจะซื้อรถใหม่
- If we don’t act now, the situation will get worse. ถ้าเราไม่ลงมือทำตอนนี้ สถานการณ์จะแย่ลงกว่าเดิม
- สมมุติเกี่ยวกับปัจจุบัน
- If I were you, I would talk to the manager. ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะไปคุยกับผู้จัดการ
- If she had more time, she could join us for lunch. ถ้าเธอมีเวลามากกว่านี้ เธอคงมาทานข้าวกับเราได้
- If I knew his phone number, I would call him. ถ้าฉันรู้เบอร์โทรศัพท์ของเขา ฉันคงโทรหาเขาแล้ว
- If we lived closer, we could meet more often. ถ้าเราอยู่ใกล้กันมากกว่านี้ เราคงเจอกันบ่อยขึ้น
- If I had enough money, I would buy that house. ถ้าฉันมีเงินเพียงพอ ฉันคงซื้อบ้านหลังนั้นแล้ว
- If I were taller, I could join the basketball team. ถ้าฉันสูงกว่านี้ ฉันคงเข้าร่วมทีมบาสเกตบอลได้
- สมมุติเกี่ยวกับอดีต
- If I had studied harder, I would have passed the exam. ถ้าฉันตั้งใจเรียนมากกว่านี้ ฉันคงสอบผ่านแล้ว
- If she had called me, I would have helped her. ถ้าเธอโทรหาฉัน ฉันคงช่วยเธอไปแล้ว
- If I had brought my umbrella, I wouldn’t have gotten wet. ถ้าฉันพกร่มมาด้วย ฉันคงไม่เปียกฝน
- If you had told me earlier, I could have prepared better. ถ้าคุณบอกฉันเร็วกว่านี้ ฉันคงเตรียมตัวได้ดีกว่านี้
- If I had taken that opportunity, my life would have been different. ถ้าฉันคว้าโอกาสนั้นไว้ ชีวิตของฉันคงแตกต่างออกไป
- If they had practiced more, they would have won the competition. ถ้าพวกเขาฝึกซ้อมมากกว่านี้ พวกเขาคงชนะการแข่งขัน
- ตัวอย่างสถานการณ์สมมุติในชีวิตประจำวัน
- If I had more free time, I would exercise every morning. ถ้าฉันมีเวลาว่างมากกว่านี้ ฉันจะออกกำลังกายทุกเช้า
- If you cooked dinner, I could wash the dishes. ถ้าคุณทำอาหารเย็น ฉันจะล้างจานให้
- If we didn’t have this meeting today, I would go to the park. ถ้าเราไม่มีประชุมวันนี้ ฉันจะไปสวนสาธารณะ
- If she knew how to drive, she could take the car to work. ถ้าเธอขับรถได้ เธอจะสามารถขับรถไปทำงาน
- If I were you, I would ask for help from a friend. ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะขอความช่วยเหลือจากเพื่อน
- What if it rains tomorrow? Should we bring umbrellas? ถ้าฝนตกพรุ่งนี้ล่ะ? เราควรเอาร่มไปไหม?
การ พูดเรื่องสมมุติในภาษาอังกฤษ ต้องอาศัยความเข้าใจโครงสร้างไวยากรณ์และการเลือกใช้คำให้เหมาะสมกับบริบท การเรียนรู้และฝึกฝนจากตัวอย่างในบทความนี้จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ หรือการเลือก เรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว กับ Engduo Thailand ก็จะช่วยเสริมทักษะการใช้ภาษาอังกฤษให้ดียิ่งขึ้นได้