ถ้าจะ พูดเรื่องสมมุติในภาษาอังกฤษ ต้องพูดอย่างไร คำตอบอยู่ตรงนี้!

ถ้าจะ พูดเรื่องสมมุติในภาษาอังกฤษ ต้องพูดอย่างไร คำตอบอยู่ตรงนี้!

เรียนรู้การ พูดเรื่องสมมุติในภาษาอังกฤษ อย่างถูกต้อง พร้อมโครงสร้างประโยค ตัวอย่างการใช้จริง และเทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้การสื่อสารของคุณราบรื่นไม่มีสะดุด

 

พูดเรื่องสมมุติในภาษาอังกฤษ พูดเหมือนของไทยหรือเปล่า

ภาษาไทยและภาษาอังกฤษมีวิธีการพูดเรื่องสมมุติที่คล้ายคลึงกันในแนวคิด แต่แตกต่างกันในเชิงโครงสร้างไวยากรณ์และการเลือกใช้คำ ตัวอย่างเช่น ในภาษาไทยเรามักใช้คำนำหน้าเช่น “ถ้า” หรือ “หาก” เพื่อบอกถึงสถานการณ์ที่เป็นไปได้หรือไม่เป็นจริง เช่น “ถ้าฉันรวย ฉันจะซื้อบ้านหลังใหญ่” ในภาษาอังกฤษจะใช้ “if” เป็นคำเริ่มต้น เช่น If I were rich, I would buy a big house.

 

ความแตกต่างที่สำคัญ

  • โครงสร้างประโยค
  • ภาษาไทย: ใช้คำเชื่อมแบบง่ายและมีลำดับคำที่ยืดหยุ่น
  • ภาษาอังกฤษ: ต้องการรูปแบบไวยากรณ์ที่ชัดเจน เช่น การเปลี่ยน tense ตามประเภทของสมมุติ
  • การแบ่งประเภทของสมมุติ
  • ภาษาไทยมักไม่เน้นการแบ่งชัดเจนระหว่างสถานการณ์จริงและไม่จริง
  • ภาษาอังกฤษแบ่งสมมุติออกเป็น 3 ประเภทหลัก: สมมุติที่เป็นจริง (Real Conditional), สมมุติที่ไม่จริงในปัจจุบัน (Unreal Present), และสมมุติที่ไม่จริงในอดีต (Unreal Past)

ตัวอย่างการเปรียบเทียบภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

  • ภาษาไทย: ถ้าฝนตก ฉันจะไม่ไปตลาด
  • ภาษาอังกฤษ: If it rains, I will not go to the market.
  • ภาษาไทย: ถ้าฉันเป็นนก ฉันจะบินได้
  • ภาษาอังกฤษ: If I were a bird, I could fly.

 

เมื่อจะสมมุติต้องพูดอย่างไร

เมื่อพูดถึงเรื่องสมมุติในภาษาอังกฤษ สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้โครงสร้างที่เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยมีหลักการเบื้องต้นดังนี้:

  • เลือกประเภทของสมมุติ
  • Real Conditional (สมมุติที่เป็นจริง) ใช้พูดถึงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจริงในอนาคต

โครงสร้าง: If + Present Simple, … will + base verb เช่น If I finish my homework, I will watch TV.

  • Unreal Present (สมมุติที่ไม่จริงในปัจจุบัน) ใช้พูดถึงสิ่งที่ไม่เป็นจริงในปัจจุบันหรืออนาคต

โครงสร้าง: If + Past Simple, … would/could/might + base verb เช่น “If I were rich, I would travel the world.”

  • Unreal Past (สมมุติที่ไม่จริงในอดีต) ใช้พูดถึงสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงในอดีต

โครงสร้าง: If + Past Perfect, … would/could/might have + past participle เช่น If I had studied harder, I would have passed the exam.

  • คำเชื่อมอื่น ๆ นอกเหนือจาก If
  • ใช้ What if เพื่อเริ่มต้นคำถามสมมุติ What if we missed the train?
  • ใช้ Suppose หรือ Imagine เพื่อสร้างประโยคสมมุติ Suppose you won the lottery. What would you do?”
รายละเอียดคอร์สเรียน

โครงสร้างต่าง ๆ ที่นำไปใช้เมื่อพูดเหตุการณ์สมมุติ

  1. Real Conditional (สมมุติที่เป็นจริง) ใช้พูดถึงสถานการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในปัจจุบันหรืออนาคต

โครงสร้าง: If + Present Simple, … will/can/may + base verb

ตัวอย่าง

If it rains tomorrow, we will cancel the picnic. ถ้าพรุ่งนี้ฝนตกเราจะยกเลิกไปปิคนิคกัน

If you study hard, you can achieve your goals. ถ้าเราเรียนหนักเราจะสำเร็จตามเป้าหมาย

 

  1. Unreal Present (สมมุติที่ไม่จริงในปัจจุบัน) ใช้พูดถึงสิ่งที่ไม่เป็นจริงในปัจจุบัน

โครงสร้าง: If + Past Simple, … would/could/might + base verb

ตัวอย่าง

If I were a millionaire, I would buy a mansion. ถ้าฉันเป็นเศรษฐีฉันจะซื้อคฤหาสน์สักหลัง (ความจริง:ในขณะที่พูดฉันไม่ได้เป็นเศรษฐี)

If she knew the answer, she could tell us. ถ้าเธอรู้คำตอบเธอคงบอกเรา (ความจริง:เธอไม่รู้คำตอบ)

 

  1. Unreal Past (สมมุติที่ไม่จริงในอดีต) ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นในอดีต

โครงสร้าง: If + Past Perfect, … would/could/might have + past participle

ตัวอย่าง

If I had known about the meeting, I would have attended. ถ้าผมรู้เรื่องการประชุมผมคงเข้าร่วมประชุม (ความจริง :เขาไม่รู้ว่ามีการประชุม เขาจึงไม่ได้เข้าร่วมการประชุม)

If they had arrived earlier, they could have caught the train. หากพวกเขามาถึงเร็วกว่านี้ พวกเขาก็คงจะขึ้นรถไฟได้ (ความจริง :พวกเขามาช้า จึงขึ้นรถไฟไม่ทัน)

 

  1. การใช้ What if ใช้ตั้งคำถามหรือสมมุติสถานการณ์

ตัวอย่าง

What if we don’t finish the project on time? จะเป็นอย่างไรถ้าเราทำโครงการไม่เสร็จตรงเวลา?

What if you were the CEO of this company? จะเป็นอย่างไรหากคุณเป็น CEO ของบริษัทนี้?

  1. การใช้ Suppose หรือ Imagine ใช้เพื่อให้ผู้อื่นคิดหรือจินตนาการถึงสถานการณ์สมมุติ

ตัวอย่าง

Suppose you were invisible for a day. What would you do? สมมติว่าคุณล่องหนได้หนึ่งวัน คุณจะทำอะไร?

Imagine living on a deserted island. How would you survive? ลองนึกภาพการใช้ชีวิตบนเกาะร้าง คุณจะรอดได้อย่างไร?

ตัวอย่างประโยค พูดเรื่องสมมุติในภาษาอังกฤษ พร้อมนำไปใช้จริง

  1. สมมุติเกี่ยวกับอนาคต
  • If I get a scholarship, I will study abroad. ถ้าฉันได้ทุนฉันจะไปเรียนต่างประเทศ
  • If we win the match, we will celebrate together. ถ้าเราชนะการแข่งขันเราจะฉลองด้วยกัน
  • If the weather is nice tomorrow, we can have a picnic. ถ้าพรุ่งนี้อากาศดี เราอาจไปปิกนิกกันได้
  • If she applies for the job, she might get it. ถ้าเธอสมัครงานนี้ เธออาจจะได้งาน
  • What if the project gets delayed? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าโครงการล่าช้า
  • If they arrive early, we will start the meeting on time. ถ้าพวกเขามาเร็ว เราจะเริ่มประชุมตรงเวลา
  • If you study harder, you can achieve your dreams. ถ้าคุณขยันเรียนมากขึ้น คุณสามารถทำตามฝันได้
  • If I save enough money, I will buy a new car. ถ้าฉันเก็บเงินได้เพียงพอ ฉันจะซื้อรถใหม่
  • If we don’t act now, the situation will get worse. ถ้าเราไม่ลงมือทำตอนนี้ สถานการณ์จะแย่ลงกว่าเดิม
  1. สมมุติเกี่ยวกับปัจจุบัน
  • If I were you, I would talk to the manager. ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะไปคุยกับผู้จัดการ
  • If she had more time, she could join us for lunch. ถ้าเธอมีเวลามากกว่านี้ เธอคงมาทานข้าวกับเราได้
  • If I knew his phone number, I would call him. ถ้าฉันรู้เบอร์โทรศัพท์ของเขา ฉันคงโทรหาเขาแล้ว
  • If we lived closer, we could meet more often. ถ้าเราอยู่ใกล้กันมากกว่านี้ เราคงเจอกันบ่อยขึ้น
  • If I had enough money, I would buy that house. ถ้าฉันมีเงินเพียงพอ ฉันคงซื้อบ้านหลังนั้นแล้ว
  • If I were taller, I could join the basketball team. ถ้าฉันสูงกว่านี้ ฉันคงเข้าร่วมทีมบาสเกตบอลได้
  1. สมมุติเกี่ยวกับอดีต
  • If I had studied harder, I would have passed the exam. ถ้าฉันตั้งใจเรียนมากกว่านี้ ฉันคงสอบผ่านแล้ว
  • If she had called me, I would have helped her. ถ้าเธอโทรหาฉัน ฉันคงช่วยเธอไปแล้ว
  • If I had brought my umbrella, I wouldn’t have gotten wet. ถ้าฉันพกร่มมาด้วย ฉันคงไม่เปียกฝน
  • If you had told me earlier, I could have prepared better. ถ้าคุณบอกฉันเร็วกว่านี้ ฉันคงเตรียมตัวได้ดีกว่านี้
  • If I had taken that opportunity, my life would have been different. ถ้าฉันคว้าโอกาสนั้นไว้ ชีวิตของฉันคงแตกต่างออกไป
  • If they had practiced more, they would have won the competition. ถ้าพวกเขาฝึกซ้อมมากกว่านี้ พวกเขาคงชนะการแข่งขัน
  1. ตัวอย่างสถานการณ์สมมุติในชีวิตประจำวัน
  • If I had more free time, I would exercise every morning. ถ้าฉันมีเวลาว่างมากกว่านี้ ฉันจะออกกำลังกายทุกเช้า
  • If you cooked dinner, I could wash the dishes. ถ้าคุณทำอาหารเย็น ฉันจะล้างจานให้
  • If we didn’t have this meeting today, I would go to the park. ถ้าเราไม่มีประชุมวันนี้ ฉันจะไปสวนสาธารณะ
  • If she knew how to drive, she could take the car to work. ถ้าเธอขับรถได้ เธอจะสามารถขับรถไปทำงาน
  • If I were you, I would ask for help from a friend. ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะขอความช่วยเหลือจากเพื่อน
  • What if it rains tomorrow? Should we bring umbrellas? ถ้าฝนตกพรุ่งนี้ล่ะ? เราควรเอาร่มไปไหม?

 

การ พูดเรื่องสมมุติในภาษาอังกฤษ ต้องอาศัยความเข้าใจโครงสร้างไวยากรณ์และการเลือกใช้คำให้เหมาะสมกับบริบท การเรียนรู้และฝึกฝนจากตัวอย่างในบทความนี้จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ หรือการเลือก เรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว กับ Engduo Thailand ก็จะช่วยเสริมทักษะการใช้ภาษาอังกฤษให้ดียิ่งขึ้นได้

Engduo Thailand

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตัวต่อตัว พูดได้ชัวร์ ใช้ได้จริง

Engduo Thailand

ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย

FB: Engduo Thailand

Messenger

Line: @engduo

Tel: 0988268961

บทความของเรา

ดูบทความทั้งหมด