Speak อย่างไรเมื่อ คู่สนทนาไม่เข้าใจ ให้การสื่อสารราบรื่น ไม่มีสะดุดฉบับมือโปร!

Speak อย่างไรเมื่อ คู่สนทนาไม่เข้าใจ ให้การสื่อสารราบรื่น ไม่มีสะดุดฉบับมือโปร!

แนะนำวิธีรับมือเมื่อ คู่สนทนาไม่เข้าใจ พร้องประโยคและเทคนิคฝึกพูด ให้การสื่อสารราบรื่น ไม่สะดุด ฉบับมือโปร อัปเดตเทคนิคพร้อมใช้งานจริง

 

สถานการณ์ที่ไม่คาดคิด รับมือกับ คู่สนทนาไม่เข้าใจ อย่างไร

          การสื่อสารในชีวิตจริงไม่ได้ราบรื่นเสมอไป บางครั้งอาจเผชิญกับสถานการณ์ที่คู่สนทนาไม่เข้าใจสิ่งที่เราพูด หรือการอธิบายของเราอาจไม่ชัดเจนพอ สถานการณ์เหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ในที่ทำงาน การเดินทาง หรือแม้แต่การสนทนาทั่วไปในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม การรับมือกับปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยาก หากเรามีวิธีการที่เหมาะสมและมีประโยคที่ช่วยให้การสื่อสารชัดเจนยิ่งขึ้น

 

วิธีการรับมือเมื่อ คู่สนทนาไม่เข้าใจ

การเผชิญหน้ากับคู่สนทนาที่ไม่เข้าใจสิ่งที่เราพูดในภาษาอังกฤษอาจสร้างความท้าทาย แต่ด้วยการใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม คุณสามารถปรับตัวและทำให้การสื่อสารกลับมาเป็นไปอย่างราบรื่นได้ ดังนี้

  1. สังเกตปฏิกิริยาของคู่สนทนา

หากคู่สนทนาแสดงสีหน้าสงสัยหรือพยักหน้าอย่างลังเล นี่อาจเป็นสัญญาณว่าเขาไม่เข้าใจ ใช้โอกาสนี้เพื่อหยุดพูดและถามว่า

“Am I explaining this clearly?” สิ่งที่ฉันอธิบายชัดเจนไหม?

 

  1. ใช้คำศัพท์ง่าย ๆ และพูดช้าลง

หลีกเลี่ยงคำศัพท์ซับซ้อนและประโยคที่ยาวเกินไป ตัวอย่างเช่น แทนที่จะพูดว่า

Could you clarify your requirements?

ให้พูดว่า What do you need exactly? คุณต้องการอะไรโดยเฉพาะ?

 

  1. ย้ำประเด็นสำคัญ

หากข้อความที่พูดไปซับซ้อนเกินไป ให้เน้นย้ำเฉพาะส่วนสำคัญโดยพูดซ้ำด้วยคำพูดที่ต่างออกไป เช่น

To sum up, we need to focus on the deadline. สรุปคือ เราต้องเน้นเรื่องกำหนดส่งงาน

 

  1. อธิบายด้วยตัวอย่างหรือเปรียบเทียบ

การใช้ตัวอย่างช่วยทำให้เนื้อหาที่ซับซ้อนเข้าใจง่ายขึ้น เช่น หากพูดถึงแนวคิดทางธุรกิจ คุณอาจเพิ่ม:

It’s like building a house. We need a strong foundation first. มันเหมือนกับการสร้างบ้าน เราต้องมีฐานที่แข็งแรงก่อน

 

  1. ขอให้คู่สนทนาอธิบายกลับ

วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจว่าคู่สนทนาเข้าใจสิ่งที่เราพูดไป โดยถามว่า

Could you repeat what I just explained? ช่วยพูดซ้ำสิ่งที่ฉันอธิบายไปหน่อยได้ไหม?

 

  1. ใช้เครื่องมือหรือภาพประกอบ

หากคำพูดอย่างเดียวไม่เพียงพอ ลองใช้รูปภาพ วาดแผนผัง หรือแม้แต่เขียนประโยคช่วยอธิบาย

เช่น Let me draw it for you. ขอฉันวาดให้ดู

 

  1. เปลี่ยนวิธีการสื่อสาร

หากคู่สนทนาไม่เข้าใจแม้จะพยายามพูดซ้ำหลายครั้ง อาจเสนอทางเลือกอื่น เช่น การส่งข้อความอีเมลหรือเอกสาร

Shall I send you an email to explain this further? ฉันส่งอีเมลอธิบายเพิ่มเติมให้ไหม ?

 

  1. ใช้ภาษากายช่วยเสริม

การพยักหน้า การชี้ไปยังสิ่งที่เกี่ยวข้อง หรือการทำมือประกอบคำพูด สามารถช่วยทำให้สิ่งที่พูดเข้าใจง่ายขึ้น

 

  1. แสดงความเข้าใจและอดทน

การแสดงน้ำเสียงที่สงบและให้กำลังใจช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี เช่น

It’s okay if this is a bit confusing. Let’s take it step by step. ไม่เป็นไรถ้าสิ่งนี้ดูสับสน มาลองทีละขั้นตอนกัน

 

  1. ตรวจสอบความเข้าใจอีกครั้ง

ก่อนจะจบบทสนทนา ให้ยืนยันว่าคู่สนทนาเข้าใจอย่างถูกต้องโดยพูดว่า

So, do you have any questions about this?” (คุณมีคำถามเพิ่มเติมไหม?

 

มาดูประโยคที่คู่สนทนามักใช้เมื่อไม่เข้าใจในสิ่งที่เราพูด และเราสามารถใช้เมื่อเราไม่เข้าใจในสิ่งที่คู่สนทนาพูด

  • Can you slow down a little, please? ช่วยพูดช้าลงหน่อยได้ไหม?
  • What do you mean by that? คุณหมายถึงอะไร?
  • I’m not sure I got that right. ฉันไม่แน่ใจว่าฉันเข้าใจถูกหรือเปล่า
  • Could you repeat the key points? ช่วยพูดประเด็นสำคัญอีกครั้งได้ไหม?
  • Can you break it down for me? ช่วยแยกอธิบายเป็นส่วนๆ ได้ไหม?
  • Can we start from the beginning? เราสามารถเริ่มจากต้นได้ไหม?
  • Can you go over the main points again? ช่วยทบทวนประเด็นสำคัญอีกครั้งได้ไหม?
  • I’m not familiar with that word. Could you explain what it means? ฉันไม่คุ้นกับคำนั้น ช่วยอธิบายหน่อยว่ามันหมายถึงอะไร?
  • Could you provide an example to help me understand better? ช่วยยกตัวอย่างเพื่อให้ฉันเข้าใจมากขึ้นได้ไหม?
  • Did I understand you correctly when you said this? ฉันเข้าใจคุณถูกต้องไหมตอนที่คุณพูดสิ่งนี้?
  • Could you elaborate on that point, please? ช่วยขยายความในประเด็นนั้นหน่อยได้ไหม?
  • I’m sorry, I’m still not clear. Could you explain it one more time? ขอโทษครับ/ค่ะ ฉันยังไม่ค่อยเข้าใจ ช่วยอธิบายอีกครั้งได้ไหม?

 

ประโยคที่ใช้เพื่อให้สื่อสารอย่างถูกต้อง

การใช้ประโยคเพื่อให้สื่อสารอย่างถูกต้องเหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ต้องการความชัดเจนและการทำความเข้าใจร่วมกัน

  • เมื่อเราไม่เข้าใจหรือสับสนคู่สนทนา ใช้ประโยคเพื่อถามซ้ำ อธิบายเพิ่มเติม หรือปรับปรุงวิธีการพูด เช่น

Can you slow down a little, please? ใช้เมื่อคู่สนทนาพูดเร็วเกินไป

Could you explain that in simpler terms? ใช้เมื่อเนื้อหาที่พูดยากเกินไป

  • เมื่อต้องการตรวจสอบความเข้าใจของตัวเอง ใช้เพื่อยืนยันหรือขอคำอธิบายเพิ่มเติม เช่น

Let me make sure I understand. เพื่อยืนยันว่าเราเข้าใจถูกต้อง

Did I get that right? เพื่อถามว่าเราเข้าใจสิ่งที่คู่สนทนาหมายถึงถูกต้องหรือไม่

  • เมื่อต้องการปรับเปลี่ยนวิธีการสื่อสาร ใช้เพื่อเสนอแนวทางใหม่ในการพูดให้เข้าใจง่ายขึ้น เช่น

Do you want me to say it in a different way? เสนอเปลี่ยนวิธีการพูดเพื่อความชัดเจน

  • เมื่อไม่เข้าใจศัพท์หรือข้อมูลบางส่วน ใช้ถามเกี่ยวกับรายละเอียดที่ต้องการ เช่น

What does this word mean? ใช้เมื่อไม่เข้าใจคำศัพท์

Could you break it down for me? ใช้เมื่อข้อมูลซับซ้อนเกินไป

รายละเอียดคอร์สเรียน

ตัวอย่างประโยคในสถานการณ์จริง

ลองดูประโยคเหล่านี้จะช่วยแก้ไขปัญหาและเพิ่มโอกาสให้คู่สนทนาเข้าใจสิ่งที่เราสื่อสารได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

  • สถานการณ์: คู่สนทนาฟังคำสั่งของเราไม่เข้าใจ

Let me explain it another way to make it clearer.

ให้ฉันอธิบายอีกแบบเพื่อให้ชัดเจนขึ้น

  • สถานการณ์: คู่สนทนาฟังไม่ทันบางส่วน

I think you missed a part. Let me repeat it.

ฉันคิดว่าคุณอาจพลาดไปบางส่วน ขอพูดซ้ำอีกที

  • สถานการณ์: ไม่เข้าใจเพราะสำเนียงหรือการออกเสียง

Sorry if my pronunciation is unclear. Let me try again.

ขอโทษด้วยถ้าการออกเสียงของฉันไม่ชัดเจน ขอพูดใหม่อีกครั้ง

  • สถานการณ์: คู่สนทนาสับสนกับคำศัพท์ที่เราใช้

This word might be unfamiliar. It means…

คำนี้อาจไม่คุ้นเคย มันหมายถึง…

  • สถานการณ์: พูดเร็วเกินไปจนอีกฝ่ายไม่เข้าใจ

I’ll slow down. Let me say it step by step.

ฉันจะพูดช้าลง ขอพูดทีละขั้น

  • สถานการณ์: คู่สนทนาไม่เข้าใจแนวคิดที่อธิบาย

Let me give you an example to clarify.

ขอฉันยกตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น

  • สถานการณ์: การสื่อสารทางโทรศัพท์ไม่ชัดเจน

The line might not be clear. Should I send this in writing instead?

สายอาจไม่ชัดเจน ฉันควรส่งข้อความเป็นลายลักษณ์อักษรแทนไหม?

  • สถานการณ์: คู่สนทนาทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจ

You seem unsure. Should I explain it another way?

คุณดูเหมือนไม่แน่ใจ ฉันควรอธิบายอีกแบบไหม?

  • สถานการณ์: อธิบายคำสั่งที่ซับซ้อนเกินไป

I realize this might sound complicated. Let me simplify it.

ฉันเข้าใจว่านี่อาจฟังดูซับซ้อน ขอฉันทำให้มันง่ายขึ้น

  • สถานการณ์: คู่สนทนาขอให้พูดซ้ำ

Sure, I’ll repeat that for you.

ได้เลย ฉันจะพูดซ้ำให้นะ

 

ฝึก Speak หรือการพูดทางไหนได้บ้าง

  • พูดหน้ากระจกฝึกการออกเสียงและสำรวจสีหน้าท่าทางของตนเอง
  • ดูหนังหรือซีรีส์ภาษาอังกฤษพยายามเลียนแบบประโยคและสำเนียงที่ได้ยิน
  • ฟังพอดแคสต์และพูดตามเลือกรายการที่เหมาะสมกับระดับภาษา
  • ใช้แอปพลิเคชันฝึกพูดภาษาอังกฤษ
  • เข้าร่วมกลุ่มภาษาออนไลน์เช่น คลาสสนทนาออนไลน์หรือกลุ่มฝึกภาษาในโซเชียลมีเดีย
  • เขียนสคริปต์และฝึกพูดตามเลือกหัวข้อที่สนใจและเขียนบทสนทนา
  • พูดคุยกับเจ้าของภาษาใช้โอกาสฝึกพูดกับเจ้าของภาษาโดยตรง
  • ตั้งคำถามกับตัวเองฝึกการถาม-ตอบในหัวข้อต่าง ๆ
  • อัดเสียงตัวเองตรวจสอบการออกเสียงและปรับปรุง
  • สร้างสถานการณ์จำลองฝึกพูดในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การสัมภาษณ์งาน การถามทาง

 

บทความ เรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร นี้ครอบคลุมทั้งสถานการณ์จริง ประโยคที่ใช้ได้ และเทคนิคการฝึกที่นำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้เราสื่อสารได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ

Engduo Thailand

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตัวต่อตัว พูดได้ชัวร์ ใช้ได้จริง

Engduo Thailand

ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย

FB: Engduo Thailand

Messenger

Line: @engduo

Tel: 0988268961

บทความของเรา

ดูบทความทั้งหมด