ทำความรู้จัก Pronouns พร้อมวิธีใช้แบบเข้าใจง่าย

ทำความรู้จัก Pronouns พร้อมวิธีใช้แบบเข้าใจง่าย

หากพูดถึงคำสรรพนามในภาษาไทยแล้ว เมื่อเรียนภาษาอังกฤษคงไม่มีใครไม่รู้จัก pronouns อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นการใช้คำสรรพนามในการเรียกคน สัตว์ สิ่งของและสถานที่แทนชื่อนั้น ๆ ดังนั้นวันนี้เราจะมาเรียนรู้ถึงความหมายและประเภทของ Pronoun และตัวอย่างเพื่อให้เราได้เข้าใจอย่างชัดเจน นำไปใช้ได้อย่างถูกหลัก แบบไม่มีสะดุดกัน

 

Pronouns คืออะไร

Pronoun คือ ประเภทคำที่เรียกว่า สรรพนามเหมือนกับภาษาไทย แต่เป็นคำที่เราใช้เรียกบุคคล สิ่งของ สัตว์หรือสถานที่แทนชื่อเฉพาะของมัน เพื่อไม่ให้มีการใช้นามนั้นซ้ำ ๆ มากจนเกินไปโดยไม่จำเป็น ยกตัวอย่างเช่น

  • My mom always cooks for our dinner, but today she is too lazy to do.

แม่ของฉันมักจะทำข้าวเย็นให้เราอยู่เสมอ แต่วันนี้เธอขี้เกียจเกินจะทำ

เราจะเห็นได้ว่าแทนที่ประโยคนี้จะใช้คำว่า My mom หรือ แม่ของฉัน จึงใช้คำว่า she แทน เพื่อทำให้ประโยคกระชับ ลดการใช้คำนามลงไป หลังจากที่เราดูประโยคตัวอย่างกันแล้ว ต่อไปเรามาดูประเภทของคำสรรพนามว่ามีอะไรกันบ้าง

 

Pronouns มีอะไรบ้าง มีกี่ประเภท

Pronoun ในภาษาอังกฤษมีถึง 8 ประเภทด้วยกันดังนี้

  1. Subject Pronoun (บุรุษสรรพนาม) วางหน้าประโยคทำหน้าที่เป็นประธาน

= I (ฉัน), you (คุณ), he (เขา), she (เธอ), it (มัน), we (พวกเรา), they (พวกเขา)

  1. Object Pronoun (สรรพนามรูปกรรม) วางท้ายประโยคเพื่อเติมเต็มประโยคในหน้าที่ของกรรม

= me (ฉัน), you (คุณ), him (เขา), her (เธอ), us (พวกเรา), them (พวกเขา), whom (ใคร)

  1. Possessive Pronoun (สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ) แสดงความเป็นเจ้าของที่ท้ายประโยคในหน้าที่ของกรรม

= mine (ของฉัน), yours (ของคุณ), ours (ของพวกเรา), theirs (ของพวกเขา), hers (ของเธอ), his (ของเขา)

*เสริม possessive adjective กันสักเล็กน้อยเพื่อไม่ให้สับสนกัน โดย คุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของนั้นจะใช้นำหน้านามที่เราต้องการขยายว่า … เป็นของใคร โดยมีคำดังต่อไปนี้

= my, our, your, his, her, its, และ their

ตัวอย่างประโยค

  • Is that your bag under the chair?

นั่นกระเป๋าของเธออยู่ใต้เก้าอี้ใช่ไหม

  • Our apartment is on the second floor.

ห้องเช่าของเราอยู่ที่ชั้นสองน่ะ

  • I need to clean my teeth after eating.

ฉันต้องแปรงฟันหลังจากทานอาหารสักหน่อย

  1. Reflexive Pronoun (สรรพนามสะท้อน) สะท้อนเพื่อเน้นย้ำถึงบุคคลที่พูดถึงในประโยค

= myself (ตัวฉันเอง), yourself (ตัวคุณเอง), himself (ตัวเขาเอง), herself (ตัวเธอเอง), itself (ตัวมันเอง), ourselves (ตัวพวกเราเอง), yourselves (ตัวพวกคุณเอง), themselves (ตัวพวกเขาเอง)

  1. Demonstrative Pronoun (สรรพนามชี้เฉพาะ)

= this (…นี้), that (…นั่น), these (…เหล่านี้), those (…เหล่านั้น)

  1. Indefinite Pronoun (สรรพนามไม่ชี้เฉพาะเจาะจง)

= all (ทั้งหมด), any… (…. ก็ได้), anyone (ใครก็ได้, ใครก็ตาม), anything (อะไรก็ได้), anybody (ใครก็ได้), none (ไม่มี… เลย), some (บาง…), something (บางสิ่ง), everyone (ทุกคน), everything (ทุกสิ่ง, ทุกอย่าง), no one (ไม่มีใคร)

** “เล็กน้อย, บ้าง, เลย” ใช้กับคำนามที่นับได้และนับไม่ได้ แต่จะเน้นใช้ในประโยคปฏิเสธเสียส่วนใหญ่

  1. Interrogative Pronoun (สรรพนามที่ใช้เป็นคำถาม)

= which (อันไหน), what (อะไร), whom [ใคร (กรรม)], who (ใคร), whose (ของใคร)

  1. Distributive Pronoun (สรรพนามแสดงการจำแนก)

= each (แต่ละ…), either (อย่างใดอย่างหนึ่ง), neither (ไม่ทั้งสองอย่าง)

 

การนำ pronouns ไปใช้

สำหรับการนำ Pronouns ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของ สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงในอันดับต่อมาคือการใช้ กริยา (Verb) และ กริยาช่วย (Auxiliary Verb) ให้สอดคล้องกับคำสรรพนามนั้น ๆ ในแต่ละ Tense ดังนั้นการจำโครงสร้างของ Tense ให้ได้ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่เราจะสามารถสร้างประโยคขึ้นมาได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือการเลือกสรรพนามให้เหมาะสมกับประโยคที่ต้องมีความสอดคล้องกันดังต่อไปนี้

  • การเติม s, es ให้กับคำกริยาและการใช้ do, does ให้เหมาะสมกับประธานใน Present Simple
  • การใช้ to be is, am, are / was, were ให้สองคล้องกับประธานใน Present Continuous และ Past Continuous
  • การใช้ have, has ให้สองคล้องกับประธานใน Present Perfect

การที่จะทำให้ประโยคและกริยาสอดคล้องกับคำสรรพนามนั้น ๆ การจำโครงสร้างของ Tense ให้ได้ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่เราจะสามารถสร้างประโยคขึ้นมาได้ถูกตามหลักไวยากรณ์ตามที่ควรจะเป็น

รายละเอียดคอร์สเรียน

ตัวอย่างประโยคในการใช้ pronouns

หลังจากที่เราเข้าใจหลักการคร่าว ๆ ในเรื่องสรรพนาม หรือ Pronouns แล้ว เรามาดูตัวอย่างการใช้ Pronouns ในประโยคกันเลยดีกว่า

Subject Pronoun (บุรุษสรรพนาม):

  • I go to the office every day to work.

ฉันไปทำงานที่ออฟฟิศทุกวัน

  • He is writing a letter to his grandfather.

เขากำลังเขียนจดหมายหาปู่ของเขา

  • Did you get the book you were looking for?

คุณได้หนังสือที่คุณหาตอนนั้นแล้วหรือยัง

 

Object Pronoun (สรรพนามรูปกรรม):

  • Can you help me to wash the dishes?

เธอช่วยฉันล้างจานหน่อยได้ไหม

  • I sent her some chocolate and flowers.

ผมได้ส่งช็อกโกแล็ตและดอกไม้ไปให้เธอ

  • To walk with my dog, I think this park is perfect for it.

หากจะไปเดินเล่นกับเจ้าตูบ ฉันคิดว่าสวนสาธารณะแห่งนี้เหมาะกับมันนะ

 

Possessive Pronoun (สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ) แสดงความเป็นเจ้าของที่ท้ายประโยคในหน้าที่ของกรรม

  • This wallet is hers.

กระเป๋าเงินใบนี้เป็นของเธอนี่

  • That house on the road is theirs.

บ้านหลังนั้นบนถนนเป็นของพวกเขาแหละ

  • Her car is faster than mine.

รถเธอเร็วกว่าของผมอีก

 

Reflexive Pronoun (สรรพนามสะท้อน)

  • He fell over the stairs and hurt himself.

เขาล้มหล่นตรงบันไดและทำให้ตัวเขาเองบาดเจ็บ

  • She made herself a cup of coffee this morning.

เธอชงกาแฟให้ตัวเธอเองเมื่อเช้านี้

  • I am in a hurry, so I will wash the car myself.

ฉันรีบอยู่น่ะ ดังนั้นฉันจะล้างรถเอง

  • They have bought themselves a new car.

พวกเขาซื้อรถคันใหม่ให้ตัวเองกัน

 

Demonstrative Pronoun (สรรพนามชี้เฉพาะ)

  • This is my bag. I need it for school.

นี่คือกระเป๋าของฉัน ฉันต้องเอาไปโรงเรียนด้วย

  • Don’t touch the cupcake. That is mine.

อย่าแตะคัพเค้กนั่นเชียวนะ นั่นน่ะของฉัน

  • These are his children. They will become our neighbors.

เด็กเหล่านี้คือลูก ๆ ของเขา พวกเขาจะมาเป็นเพื่อนบ้านของเรา

  • Those are her shoes. I think she need to clean them.

รองเท้าเหล่านั้นเป็นของเธอ ฉันคิดว่าเธอต้องทำความสะอาดพวกมันบ้างนะ

 

Indefinite Pronoun (สรรพนามไม่ชี้เฉพาะเจาะจง)

  • Everyone is sleeping at the camp.

ทุก ๆ คนกำลังนอนหลับอยู่ที่แคมป์

  • I can recommend any of the delicious menu items here.

ฉันสามารถแนะนำเมนูอร่อย ๆ ของที่นี่ได้หมดเลยนะ

  • Nothing compares with the smell of coffee in the morning.

ไม่มีอะไรเทียบกับกลิ่นกาแฟกรุ่น ๆ ตอนเช้าได้เลย

  • She did none of the maintenance on the vehicle.

 เธอไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับการดูแลรักษารถยนต์เลย

 

Interrogative Pronoun (สรรพนามที่ใช้เป็นคำถาม)

  • What is your favorite food? Mine is spaghetti.

เธอชอบอาหารอะไรหรอ ส่วนฉันชอบสปาเก็ตตี้นะ

  • I wonder who will come tomorrow. Why dad does not tell me?

ฉันละสงสัยจังใครจะมาวันพรุ่งนี้ ทำไมพ่อไม่บอกฉันล่ะ

  • Look at that big house over there. Whose is it?

ดูบ้านหลังใหญ่ตรงนั้นสิ เป็นของใครกันนะ

 

Distributive Pronoun (สรรพนามแสดงการจำแนก)

  • Each child will receive a gift in Christmas.

เด็กแต่ละคนจะได้รับของขวัญในเทศกาลคริสต์มาสนี้

  • I have saved some money to buy either a car or house.

ฉันได้เก็บออมเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่อซื้อรถ ไม่ก็ซื้อบ้าน

  • Neither was my favorite, but I chose the red one.

ไม่มีสีไหนเป็นสีโปรดของฉันเลย แต่ท้ายที่สุดฉันก็เลือกสีแดงน่ะ

 

สรุป

หวังว่า ทุกคนจะรู้จัก Pronoun ในภาษาอังกฤษพื้นฐานกันมามากพอสมควรแล้ว สิ่งที่ควรทำหลังจากนี้คือลองฝึกฝนด้วยการพูด หรือการเขียนก็ได้ แต่อย่าลืมที่จะเขียนตามหลักไวยากรณ์ที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้พลาดกันนะ แล้วมาอ่านบทความดี ๆ สำหรับ เรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร กับ Engduo Thailand กันได้ในครั้งต่อไป

Engduo Thailand

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตัวต่อตัว พูดได้ชัวร์ ใช้ได้จริง

Engduo Thailand

ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย

FB: Engduo Thailand

Messenger

Line: @engduo

Tel: 0988268961

บทความของเรา

ดูบทความทั้งหมด