ถือเป็นคำถามและคำพูดที่เราได้ยินกันบ่อยๆเลยครับว่า เรียนภาษาอังกฤษนานไหมกว่าจะพูดได้ ซึ่งการที่เราจะได้ภาษาอังกฤษนั้นก็มีองค์ประกอบด้วยกันหลายอย่างเหมือนกัน วันนี้แอดมินจะขอสรุปมาให้ 5 ข้อดังนี้นะครับ
1. จำนวนชั่วโมงที่เราฝึกฝน หรือเรียน
เริ่มจากอันแรกเลยคือ เราใช้เวลาในการฝึกฝนเท่าไหร่ เพราะจำนวนชั่วโมงที่ต่างกันก็ให้ผลลัพท์ที่ต่างกันแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น
- นาย A เรียน วันละ 5 ชั่วโมง ทุกวันจันทร์ – ศุกร์
- นาย B เรียน วันละ 1 ชั่วโมง ทุกวันจันทร์ – ศุกร์
ถ้าเปรียบเทียบแบบนี้ก็แน่นอนอยู่แล้วว่านาย A ต้องเป็นไวกว่านาย B อย่างแน่นอน เพราะด้วยจำนวนการฝึกที่ต่างกันมาก ในที่นี้ อาจรวมถึง การหาความรู้เพิ่มเติมนอกเวลาเรียนด้วยนะครับ ยิ่งเราสนใจจริงๆ หาความรู้มาก ใช้เวลากับมันเยอะ เราก็เป็นไวอย่างแน่นอน ซึ่งแหล่งความรู้นั้นก็มีมากมายในอินเตอร์เนท
2. ความต่อเนื่องของการฝึกฝน
อีกข้อหนึ่งก็คือเรื่องของความต่อเนื่องในการฝึกฝน ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญเหมือนกัน คือถ้าเปรียบเทียบระหว่าง
- นาย A เรียนภาษา ทุกวันจันทร์ – ศุกร์
- นาย B เรียนภาษา อาทิตย์ละ 2 วัน
เห็นภาพชัดเจนเลยใช่ไหมครับ นาย A เป็นเร็วกว่าอย่างแน่นอน เพราะเขาได้ใช้ทุกวัน เหมือนให้ภาษาอังกฤษได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเลย แต่นาย B เรียนอาทิตย์ละ 2 วัน ก็อาจะเป็นช้ากว่านาย A เพราะไม่ได้ใช้ทุกวัน และพอเริ่มเรียนในอาทิตย์ถัดไปก็อาจจะลืมเนื้อหาที่ได้เรียนไปอาทิตย์ที่แล้วได้เช่นกัน
Engduo Thailand
ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย
3. วิธีการในการฝึกฝน
ในที่นี้หมายถึง เรามีวิธีการในการเรียนรู้อย่างไร เช่น การเรียนด้วยตัวเอง, การเรียนกับครูไทย, การเรียนกับครูต่างชาติ
- การเรียนด้วยตัวเอง ข้อดีของการเรียนแบบนี้เลยคือเราแทบไม่ต้องจ่ายเงินเลยสำหรับการฝึกฝน สามารถฝึกได้ตามแหล่งความรู้ที่มีมากมายได้เลยตามแหล่งความรู้ต่างๆ แต่ข้อเสียก็คือ ด้วยความที่มันเยอะเกินไป เราอาจจับจุดไม่ถูกว่า แล้วเราควรเริ่มเรียนจากสิ่งไหนก่อนนั่นเอง
- การเรียนกับครูไทย ข้อดีของการเรียนภาษาอังกฤษกับครูไทยก็คือ เข้าใจง่าย ตรงไหนที่เราไม่รู้ก็สามารถอธิบายเป็นภาษาไทยได้เลย ซึ่งจริงๆแล้วตรงนี้ก็คือข้อเสียที่ทำให้ภาษาเราพัฒนาได้ช้า และไม่สามารถใช้กับต่างชาติได้จริงนั่นเอง เพราะเวลามีปัญหาเราสามารถพูดไทยได้ แต่เวลาใช้งานจริงเราตัดภาษาไทยออกไปได้เลย เขาไม่เข้าใจเราแน่ๆ
- การเรียนกับครูชาวต่างชาติ เรามาเริ่มที่ข้อเสียกันก่อนเลยดีกว่า ข้อเสียคือ เข้าใจยาก แล้วก็ยังมีปัญหาของการที่ไม่กล้าพูดด้วยอีกด้วย เวลาเจอคำไหนไม่เข้าใจก็อธิบายกันนานเลย แต่เพื่อนๆรู้ไหมครับ สิ่งนี้แหละคือข้อดีที่เวลาเราไปใช้งานจริง เรากลับใช้ได้แบบไม่รู้ตัว เพราะได้ฝึกการอธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจไประหว่างการเรียนแล้วด้วย รวมถึงทำให้เรามั่นใจมากขึ้นเวลาเจอคนต่างชาติจริงๆด้วยครับ
4. พื้นฐานที่เรามีติดตัว
ข้อนี้ก็คืออีกข้อหนึ่งที่ใช้วัดผลว่าเราจะเป็นได้เร็วแค่ไหนผมขอแยกเป็น 2 กลุ่มพอนะครับ เดี๋ยวจะยาวไป ฮ่าๆๆ
- ประเภทเคยเรียนเรื่องแกรมม่ามาแล้ว ศัพท์ก็รู้เยอะ แต่ติดอย่างเดียวก็คือเรื่องของการที่นำไปใช้จริง ไม่มีโอกาสได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ก็เลยทำให้ใช้จริงไม่ค่อยได้ คนประเภทนี้ เรียนไม่นานก็เป็นแล้วครับ ไม่นานของผมหมายความว่าแค่ไม่ถึงเดือนนะครับ ได้พูดทุกวัน ได้ฝึกทุกวัน ซักพักก็เป็นแบบติดจรวดเลยครับ
- อีกประเภทคือ พื้นฐานแทบไม่ได้เลย (แอดมินเคยอยู่ในกลุ่มนี้ครับ Verb to be คืออะไรยังไม่รู้จัก) ประเภทนี้ก็อาจใช้เวลาเรียนนานกว่ากลุ่มแรกหน่อยครับ ลักษณะการเรียนก็คือค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆปูพื้นฐาน โดยส่วนมากที่เห็นผลแบบชัดเจน ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพจะอยู่ที่ประมาณ 6 เดือนครับ
5. ความมั่นใจ
ในทุกข้อที่ได้กล่าวมา ข้อนี้คือข้อที่สำคัญที่สุดเลยครับ ถ้าเราเก่งขนาดไหนก็แล้วแต่ แต่เราไม่พูดเราก็จะพูดไม่ได้ แต่ถ้าเราไม่เก่งแล้วพยายามกล้าที่จะพูด ไม่นานพูดได้แน่นอนครับ การเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือการเรียนรู้จากความผิดพลาด แล้วเราจะจำแม่น และก็พัฒนาต่อๆไป ไม่นานก็พูดได้อย่างแน่นอน
เพื่อนๆเชื่อไหมครับว่า แม้กระทั่งคนที่ทำงานโรงงานข้ามชาติหลายๆคนก็ไม่ได้เก่งอังกฤษมากนะครับ อ้างอิง: คนที่ทำงานบริษัทต่างชาติ เก่งอังกฤษแค่ไหนครับ แต่สิ่งที่ทุกคนมีเลยคือความมั่นใจที่จะพูด กล้าพูดกล้าสื่อสาร ไม่จำเป็นต้องแกรมม่าเป๊ะ หรือใช้คำศัพท์สูงๆยากๆได้ เพราะเราเรียนมาเพื่อสื่อสารครับ ไม่ได้เรียนเพื่อเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ แค่มั่นใจที่จะพูด และกล้าพูดเท่านั้นพอครับ
Engduo Thailand
คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตัวต่อตัว พูดได้ชัวร์ ใช้ได้จริง
สรุป
การที่เราเก่งภาษาได้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความมั่นใจครับ มั่นใจที่จะพูดก่อน หลักการเอาไว้ทีหลังครับ และที่รองลงมาคือ วิธีการที่เราเรียนรู้หรือฝึก ฝึกรูปแบบไหน เราเอาจริงขนาดไหน ถ้าเพื่อนๆเอาจริงกับมัน ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนเก่งภาษาได้อย่างแน่นอนครับ
และจากประสบการณ์ของผู้เขียน ที่ได้สอบถามนักเรียนของเรา เรียนภาษานานไหมกว่าจะพูดได้ ผู้เรียนทุกคนสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงของตัวเองได้ภายใน 1 เดือนแรกเลยครับ อันนี้คือผลฟีดแบคจากนักเรียนมากกว่าร้อยคนของเราเลยครับ เพราะการเรียนของเราเรียนกับครูต่างชาติ ใช้ภาษาอังกฤษล้วนด้วย แล้วก็ได้เรียนได้ฝึกฝนทุกวันไม่จำเป็นต้องเดินทางเพราะเป็นคลาสเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวออนไลน์ และมีทุกคอร์สที่ต้องการด้วยครับ เช่น การเรียนเพื่อการสื่อสารทั่วไป หรือ เรียนเพื่อการทำงาน หรือ เรียนเพื่อทดสอบการสัมภาษณ์งาน ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยครับ
Engduo Thailand ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม