รู้จัก Verb ให้มากขึ้น กริยาในภาษาอังกฤษมีกี่ประเภท นำไปใช้ให้เป๊ะ ดูโปรขึ้น

รู้จัก การใช้ Verb ให้มากขึ้น กริยาในภาษาอังกฤษมีกี่ประเภท นำไปใช้ให้เป๊ะ ดูโปรขึ้น

การเรียนรู้เกี่ยวกับ การใช้ Verb หรือ “กริยา” เป็นสิ่งสำคัญในภาษาอังกฤษ เนื่องจากกริยาคือส่วนสำคัญที่ช่วยให้เราสื่อสารและสร้างประโยคที่สมบูรณ์ได้ กริยาในภาษาอังกฤษมีบทบาทในการแสดงการกระทำ, สถานะ, หรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประโยค ซึ่งกริยาจะช่วยบ่งบอกว่าอะไรเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นอย่างไร ในภาษาอังกฤษ กริยาสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ซึ่งสามารถนำไปใช้ให้เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ได้ โดยแต่ละประเภทจะมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันไป เช่น การใช้ในรูปแบบที่แสดงการกระทำ, การแสดงสถานะ, หรือแม้แต่การแสดงการเปลี่ยนแปลงต่างๆ การทำความเข้าใจในประเภทต่างๆ ของกริยาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อช่วยให้การใช้ภาษาอังกฤษเป็นไปอย่างถูกต้องและชัดเจน เรามาดูกันว่า กริยาในภาษาอังกฤษมีประเภทหลักๆ อะไรบ้าง และจะนำไปใช้ให้ถูกต้องได้อย่างไร พร้อมแสดงตัวอย่าง

 

Verb หรือ กริยาคืออะไร ทำไมถึงต้องใช้ให้ถูกต้อง

Verb หรือ กริยา คือ คำที่แสดงการกระทำ (action), สถานะ (state), หรือเหตุการณ์ (event) ในประโยค เช่น “run” (วิ่ง), “eat” (กิน), “is” (เป็น/อยู่), หรือ “seem” (ดูเหมือน) กริยามีบทบาทสำคัญในการบอกว่าอะไรเกิดขึ้น หรือใครทำอะไรในประโยคนั้นๆ กริยาจึงถือเป็นหัวใจสำคัญของประโยค เพราะช่วยให้การสื่อสารมีความหมายที่ชัดเจนและสมบูรณ์ เหตุผลที่ต้องใช้ให้ถูกต้อง ได้แก่ 1) การสื่อสารที่ชัดเจน: การเลือกใช้กริยาให้ถูกต้องทำให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจสิ่งที่เราต้องการสื่อได้ง่ายขึ้น ถ้าใช้กริยาไม่เหมาะสมหรือผิดรูปแบบ อาจทำให้เกิดความสับสนหรือไม่เข้าใจข้อความที่ต้องการจะสื่อ 2) การสร้างประโยคที่สมบูรณ์: กริยาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการสร้างประโยคที่สมบูรณ์ หากไม่มีการใช้กริยาที่ถูกต้อง ประโยคนั้นจะไม่สามารถสื่อความหมายได้ครบถ้วน เช่น “I (verb) the book.” ถ้าไม่ใช้กริยาในที่นี้ ก็จะทำให้ประโยคขาดความหมาย 3) การใช้รูปแบบต่างๆ ของกริยา: กริยามีหลายรูปแบบ เช่น กริยารูปปัจจุบัน (Present), อดีต (Past), และ อนาคต (Future) รวมถึงการใช้รูปแบบต่างๆ เช่น กริยาแท้ (Main Verb), กริยาช่วย (Auxiliary Verb) ซึ่งการใช้รูปแบบที่ถูกต้องตามบริบทจะช่วยให้ประโยคมีความหมายถูกต้องและเหมาะสม 4) การใช้กริยาในลักษณะต่างๆ: บางครั้งกริยาอาจมีหลายความหมายและใช้ในบริบทที่ต่างกัน การเลือกใช้กริยาในบริบทที่ถูกต้อง เช่น กริยาที่แสดงการกระทำหรือสถานะ (เช่น “She is happy” หรือ “She runs every day”) จะทำให้การสื่อสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

 

Verb มีกี่ประเภท

Verb หรือ กริยา ในภาษาอังกฤษสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ตามลักษณะการใช้งานและการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบต่างๆ ซึ่งแบ่งได้หลักๆ ดังนี้

  1. Finite and Non-finite Verbs: กริยาแท้ และกริยาไม่แท้ 1) Finite Verbs (กริยาแท้)
    กริยาที่มีการผันตามประธานและแสดงเวลา (Tense) เช่น ปัจจุบัน อดีต หรืออนาคต กริยาเหล่านี้จะเปลี่ยนรูปตามประธานและสามารถใช้เป็นกริยาหลักในประโยคได้ 2) Non-finite Verbs (กริยาไม่แท้)
    กริยาที่ไม่ผันตามประธานและไม่แสดงเวลา กริยาไม่แท้มักใช้ร่วมกับกริยาอื่นในประโยค โดยทั่วไปจะเป็น infinitives (รูปกริยาพื้นฐาน), gerunds (กริยาที่เป็นคำนาม), หรือ past participles (รูปกริยาช่วย)
  2. Action Verb: คำกริยาแสดงอาการ กริยาที่แสดงการกระทำ หรือการดำเนินการบางอย่างในประโยค Action verbs สามารถแบ่งออกเป็น Transitive Verbs (กริยาที่ต้องการกรรม) และ Intransitive Verbs (กริยาที่ไม่ต้องการกรรม)
  3. Linking Verb: กริยาเชื่อม กริยาที่ใช้เชื่อมประธานกับคำคุณศัพท์ (Adjective) หรือคำนาม (Noun) เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประธาน กริยาเชื่อมมักแสดงสถานะหรือคุณลักษณะของประธาน กริยาเชื่อมที่พบบ่อย ได้แก่ be (am, is, are, was, were), seem, appear, become, feel, taste, look, sound เป็นต้น
  4. Auxiliary Verb: คำกริยาช่วย กริยาช่วยคือกริยาที่ใช้ร่วมกับกริยาแท้เพื่อสร้างรูปประโยคในรูปแบบต่างๆ เช่น การสร้างประโยคคำถามหรือประโยคปฏิเสธ
  5. Modal Verb: คำกริยาช่วย กริยาช่วยประเภทนี้ใช้เพื่อแสดงความสามารถ, ความจำเป็น,
    การอนุญาต, หรือคำแนะนำในประโยค Modal verbs จะไม่เปลี่ยนรูปตามประธานและมักจะตามด้วยกริยาในรูปพื้นฐาน กริยาช่วยประเภทนี้ ได้แก่ can, could, will, would, may, might, must, shall, should, ought to เป็นต้น
รายละเอียดคอร์สเรียน

วิธีการนำไปใช้ให้ถูกต้องและตัวอย่างประโยค

การใช้ Verb (กริยา) ในภาษาอังกฤษให้ถูกต้องนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างชัดเจนและไม่สับสน ซึ่งการใช้กริยาที่ถูกต้องจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การผันกริยาตามประธาน, การใช้รูปกริยาในแต่ละสถานการณ์, และการเลือกประเภทของกริยาที่เหมาะสมในประโยค

  1. Finite and Non-finite Verbs: กริยาแท้ และกริยาไม่แท้
  • Finite Verbs (กริยาแท้): กริยาที่ผันตามประธานและเวลาของประโยค เช่น present, past หรือ future tense.
  • ตัวอย่างประโยค:
    • She plays tennis. (เล่น = กริยาแท้ในรูปปัจจุบัน)
    • They worked hard yesterday. (ทำงาน = กริยาแท้ในรูปอดีต)
  • Non-finite Verbs (กริยาไม่แท้): กริยาที่ไม่มีการผันตามประธานหรือเวลา โดยใช้ในรูป infinitive, gerund, หรือ participle.
  • ตัวอย่างประโยค:
    • She loves to swim. (to swim = infinitive)
    • He enjoys reading books. (reading = gerund)
    • The man walking in the park is my friend. (walking = present participle)
  1. Action Verb: คำกริยาแสดงอาการ
  • Action Verbs คือกริยาที่แสดงการกระทำหรืออาการบางอย่าง เช่น run, eat, write, sing.
  • ตัวอย่างประโยค:
    • She runs every morning. (วิ่ง)
    • They eat dinner at 7 PM. (กิน)
    • He is writing a letter. (เขียน)
    • The children are playing outside. (เล่น)
  1. Linking Verb: กริยาเชื่อม
  • Linking Verbs คือกริยาที่ใช้เชื่อมประธานกับคำที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประธาน เช่น am, is, are, was, were, seem, become.
  • ตัวอย่างประโยค:
    • The cake is delicious. (is = เชื่อมประธาน “cake” กับ “delicious”)
    • He seems tired. (seems = เชื่อมประธาน “he” กับ “tired”)
    • The sky was clear. (was = เชื่อมประธาน “sky” กับ “clear”)
  1. Auxiliary Verb: คำกริยาช่วย
  • Auxiliary Verbs คือกริยาที่ช่วยในการสร้าง tense (เวลา), voice (รูปแบบการกระทำ) หรือ mood (อารมณ์) ของประโยค เช่น be, have, do.
  • ตัวอย่างประโยค:
    • She is reading a book. (is = กริยาช่วยในรูป continuous tense)
    • They have finished their homework. (have = กริยาช่วยในรูป perfect tense)
    • I do not understand. (do = กริยาช่วยในประโยคปฏิเสธ)
  1. Modal Verb: คำกริยาช่วย
  • Modal Verbs คือกริยาที่แสดงความสามารถ, การอนุญาต, การขออนุญาต, การบังคับ หรือความคาดหวัง เช่น can, could, may, might, must, should, will, would.
  • ตัวอย่างประโยค:
    • She can swim very fast. (can = ความสามารถ)
    • You must finish your homework. (must = คำบังคับ)
    • I should study for the test. (should = คำแนะนำ)
    • It may rain tomorrow. (may = ความเป็นไปได้)
    • Would you like some coffee? (would = การเสนอ)

           การใช้ให้ถูกต้อง

  1. Finite Verbs: ใช้กริยาแท้ที่ผันตามประธานและเวลาในประโยคที่มีการเปลี่ยนแปลงตาม tense เช่น She plays, They worked.
  2. Non-finite Verbs: ใช้กริยาไม่แท้ในรูป infinitive, gerund, หรือ participle เมื่อไม่ต้องการผันกริยาตามประธาน เช่น She wants to leave, I enjoy swimming, The man walking is my brother.
  3. Action Verbs: ใช้กับประโยคที่แสดงการกระทำหรืออาการที่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้ เช่น He eats dinner, They run every morning.
  4. Linking Verbs: ใช้เชื่อมประธานกับคำที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประธาน เช่น She is happy, The weather seems nice today.
  5. Auxiliary Verbs: ใช้กับประโยคที่ต้องการสร้าง tense, voice หรือ mood เช่น They are playing, She has finished her work, I do not know.
  6. Modal Verbs: ใช้เพื่อแสดงความสามารถ, การอนุญาต, ความคาดหวัง หรือคำแนะนำ เช่น You should study, She can dance, We must leave now.

 

การใช้ verb (กริยา) ในภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างประโยคที่มีความชัดเจนและครบถ้วน กริยาไม่เพียงแต่บอกการกระทำ แต่ยังสามารถแสดงสถานะ ท่าที หรือความสัมพันธ์ระหว่างคำต่าง ๆ ในประโยคได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าใจและใช้กริยาให้เหมาะสมกับประเภทและบริบทจะช่วยให้การสื่อสารในภาษาอังกฤษดูเป็นธรรมชาติและแม่นยำมากขึ้น เริ่มจากการใช้ action verbs สำหรับการกระทำ, linking verbs สำหรับการเชื่อมโยง, auxiliary verbs เพื่อช่วยในการสร้างประโยคต่าง ๆ, modal verbs เพื่อแสดงความหมายเฉพาะ เช่น ความสามารถหรือความจำเป็น และ phrasal verbs ที่มีความหมายเฉพาะตัว การเลือกใช้กริยาให้เหมาะสมจะทำให้การพูดและการเขียนของคุณดูมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

ยังมีอีกหลายบทความที่น่าสนใจในเว็บไซต์ของเรา Engduo Thailand สถาบันสอนภาษาอังกฤษ มุ่งเน้นให้ความรู้เพื่อเสริมทักษะภาษาอังกฤษทั้งเพื่อการสื่อสาร การทำงาน และการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

Engduo Thailand

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตัวต่อตัว พูดได้ชัวร์ ใช้ได้จริง

Engduo Thailand

ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย

FB: Engduo Thailand

Messenger

Line: @engduo

Tel: 0988268961

บทความของเรา

ดูบทความทั้งหมด