ใครเบื่อที่จะเรียนภาษาอังกฤษด้วยวิธีเดิม ๆ แล้วหรือยัง? ถ้าเบื่อและอยากเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลมาฟังทางนี้ เพราะวันนี้เราจะมานำเสนอช่องทางภาษาอังกฤษ พร้อมกับจัดตาราง 7 วันเรียนภาษาอังกฤษอย่างไรให้ไม่เบื่อ ไม่ซ้ำจำเจ สร้าง passion ในการเรียนภาษาให้มากขึ้น มาดูกันเลย
เรียนภาษาอังกฤษได้ทางไหนบ้าง
นอกจากห้องเรียนแล้ว เราก็สามารถเรียนภาษาอังกฤษผ่านช่องทางอื่น ๆ ได้อีกมากมายผ่านจากสำเนียงและเจ้าของภาษา อาทิเช่น
- อ่านหนังสือภาษาอังกฤษที่ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือเรียนอย่าง นิทาน ปรัชญาต่าง ๆ เป็นต้น
- ฟัง broadcast (พอดแคสต์) หรือ เพลง ทาง YouTube Music หรือ Spotify
- เรียนผ่านเจ้าของภาษาทางช่องต่าง ๆ บน YouTube
- ดูการ์ตูน หรือ ซีรี่ย์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ (Netflix, Disney และ Amazon Prime Video)
- เรียนบนเว็บไซต์สอนภาษาที่มีบทความต่าง ๆ หรือเนื้อหาเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ
- แอปพลิเคชันสอนภาษาที่ให้เราอัดเสียงตอบโต้พูดตามอย่าง Speaking English Practice และ Duolingo
- เรียนผ่านคอร์สเรียนที่ตัวเองสามารถเลือกได้ตามใจชอบ แถมเลือกเวลาได้!
จัดตาราง 7 วันให้เรียนภาษาได้แบบชิล ๆ (อาทิ ฟังเพลง ดูหนัง ดูช่องสอนภาษา)
จันทร์
เราเริ่มจากเบสิคก่อนคือการอ่านหนังสือ เราสามารถเลือกหนังสือที่ตัวเองชอบได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือเรียน โดยใช้เวลาอ่านตามที่ต้องการ โดยเราสามารถหาตามร้านหนังสืออย่าง Asia Book หรือ ไปดูตามงานหนังสือก็ได้นะ เขามีทั้งหนังสือพัฒนาภาษา สังคมประวัติศาสตร์ การทำอาหาร การ์ตูนไปจนถึงนิยาย
อังคาร
เราสามารถฟังพอดแคสต์ หรือ เพลง ทาง YouTube Music หรือ Spotify หลังจากที่อ่านหนังสือในวันจันทร์แล้ว ซึ่งเป็นการฝึกทักษะการฟังอย่างหนึ่งที่ดีมาก ๆ เลย เพราะมันช่วยให้เราผ่อนคลาย ช่วยให้เราคุ้นเคยสำเนียง จำศัพท์ได้และนำประโยคไปใช้ได้จริง โดยช่องที่แนะนำเลยก็คือ Luke’s English Podcast, To Fluency และ Zen English เพราะเขามีซับไตเติ้ลให้ด้วย
พุธ
วันพุธเราก็ยังอยู่กับ YouTube อยู่ โดยเราจะเรียนกับเจ้าของภาษาเช่นเดิม แต่จะเรียนในเรื่องของการใช้ประโยค วลี คำศัพท์ต่าง ๆ และการออกเสียงอย่างถูกต้อง โดยช่องต่อไปนี้เราคัดมาแล้วว่า สอนเข้าใจง่าย ไม่เร็วจนเกินไป เรียนสนุก ไม่ว่าจะเป็น English with Lucy, Speak English With Tiffani และ Caro Kowanz English
พฤหัสบดี
เราย้ายจาก YouTube มาเข้าสู่แพลตฟอร์มความบันเทิงอย่าง Netflix, Disney และ Amazon Prime Video กันต่อ โดยเขามีหนัง การ์ตูน ซีรี่ย์มากมายให้เราเลือกดูตาม taste ของตัวเองได้เลย แต่ทั้งนี้เราต้องดูระดับของตัวเองและสิ่งที่เราจะดูว่า เราฟัง ดูแล้วเข้าใจหรือไม่ โดยเราเริ่มให้ดูจากการ์ตูนก่อน เช่น Turning Red, Dug Days และ Elemental
ศุกร์
มาถึงช่วงสุดสัปดาห์กันแล้ว เราสามารถทำการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านทาง Website สอนภาษาต่าง ๆ จากบทความ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ แกรมม่า คำศัพท์และการเขียน โดยเว็บไซต์ที่สามารถเข้าไปเรียนได้เลยก็คือ British Council, BBC Learning English และ Cambridge English
เสาร์
ในวันหยุดสบาย ๆ แบบนี้ เรามาเรียนและพัฒนาทักษะการพูดไปกับแอปพลิเคชันสอนภาษาที่ให้เราอัดเสียงตอบโต้พูดตามอย่าง Speaking English Practice ที่ให้เราฝึกการพูดประโยคต่าง ๆ จากบทสนทนาในชีวิตจริงแบบตอบโต้ แต่ Duolingo จะเน้นการเรียนที่สนุก เก็บแต้มในการเรียนแต่ละวัน อีกทั้งยังได้ฝึกการพูดตั้งแต่พยัญชนะ สระจนถึงประโยคให้ถูกต้อง
อาทิตย์
สำหรับวันอาทิตย์ ใครที่กำลังคิดจะเรียนจริงจัง เราแนะนำให้สมัครคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ไม่ก็ตัวต่อตัวกับครูคนไทย หรือ ชาวต่างชาติที่สามารถสอนเราให้เข้าใจได้ สอนสนุกไม่งง ไม่กลับไปคาใจ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ไม่ว่าจะอยากเรียนด้านไหน เช่น ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ภาษาอังกฤษเพื่อการทำงานและสัมภาษณ์งาน ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก และภาษาอังกฤษสำหรับตัวสอบ IELTS โดยเน้นเรียนใช้ภาษาอังกฤษในการสอนเป็นหลัก
เรียนอย่างไรจึงจะได้ผล
เราสามารถเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลด้วยการเรียนอย่างน้อยวันละ 20 นาที แต่ทั้งนี้ถ้าใครไหวก็สามารถเรียนได้ตามต้องการเลย แต่อย่างที่บอกเราต้องมีการจัดตารางเวลาที่เหมาะสม ร่างกายพร้อม จิตใจพร้อมถึงจะเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเลือก เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ กับ Engduo Thailand ไม่กระทบกับกิจกรรมประจำวันอื่น ๆ รวมถึงต้องมีการผ่อนคลายในแต่ละวัน เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกหมดไฟ ไม่อยากฝืนเรียนต่อด้วย
เท่านี้เราก็ได้ตารางเรียนภาษาอังกฤษในแต่ละอาทิตย์ที่ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป อีกทั้งเรายังสามารถสลับปรับตามความความถนัดอย่างที่ใจชอบ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้และเก่งภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น มาตั้งไปด้วยกันเถอะ!