ต่อให้คุณคือคนที่เริ่มจาก เรียนภาษาอังกฤษไม่มีพื้นฐานเลย คุณก็คงรู้ว่า Yes คือการตอบรับ และ No คือการตอบปฏิเสธ จุดเด่นหนึ่งของแทบทุกภาษาก็คือเรื่องเดียวกันสามารถพูดได้หลายแบบ การตอบรับในภาษาอังกฤษก็เช่นกัน มีให้เลือกใช้ทั้งแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ในแต่ละรูปแบบเองก็มีให้เลือกใช้หลายคำตามสถานการณ์ จบจากบทความนี้ รับรองว่าทุกคนจะ ตอบตกลงภาษาอังกฤษ ได้มากกว่าแค่ Yes อย่างแน่นอน และจะนำเรื่องนี้ไปต่อยอดกับการ เรียนภาษาอังกฤษ ในส่วนอื่นได้อีกด้วย
การตอบตกลงภาษาอังกฤษ แบบไม่เป็นทางการ
หากเรา เรียนภาษาอังกฤษ ในคลาสที่เน้นการสนทนา ก็คงมีบ้างเหมือนกันที่บทสนทนาในคลาสนั้นเน้นการพูดคุยแบบเป็นกันเอง หรือหลายครั้งที่เรามีเพื่อนร่วมงานซึ่งเป็นชาวต่างชาติ เมื่อเขาตอบตกลงหรือตอบรับ เราก็จะได้ยินคำอื่นที่นอกจาก Yes! และต่อไปนี้คือตัวอย่างส่วนหนึ่งของคำตอบที่นำไปใช้ได้
- Yeah / Yup / Yep
คำตอบแบบเป็นกันเองสุด ๆ ใช้ได้ในทุกบริบทที่ไม่เป็นทางการ เช่น
ตัวอย่างที่ 1:
A: Are you coming to the party?
(เธอจะไปงานปาร์ตี้มั้ย)
B: Yep, I’ll be there!
(ไปแน่นอน)
ตัวอย่างที่ 2:
A: Great party, isn’t it?
(ปาร์ตี้สุดยอดเลยใช่มั้ย)
B: Yeah. It’s cool.
(ใช่ เยี่ยมมากเลย)
- Sure / Sure thing
ฟังดูสุภาพแต่ยังคงไม่เป็นทางการ เหมาะกับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงาน และสถานการณ์ที่ต้องการเน้นย้ำว่าทำได้ตามนั้นจริง ๆ เช่น
A: Can I switch the TV on?
(ผมขอเปิดทีวีได้มั้ย)
B: Sure, go ahead.
(ได้สิ เปิดเลย)
- Of course / Definitely / Absolutely
เน้นความเต็มใจหรือยืนยันชัดเจน เหมาะในสถานการณ์ที่อยากแสดงความเห็นด้วยอย่างชัดเจน เช่น
A: Do you want to join our team for lunch?
(คุณจะไปกินมื้อเที่ยงกับพวกเรามั้ย)
B: Absolutely!
(ไปแน่นอนอยู่แล้ว!)
นอกจากสามแบบนี้แล้ว ก็ยังมีรูปแบบอื่นอีก เช่น
- No problem! / Not a problem! / You got it! เหมาะกับการตอบรับว่าเรายินดีให้ความช่วยเหลือ
- Sounds good! ใช้ตอบรับข้อเสนอ
- Alright / Okay / OK คำเรียบง่ายและมีความเป็นกลาง ใช้ตอบตกลงได้ในหลากหลายสถานการณ์ ซึ่งคำตอบเหล่านี้หากคุณ เรียนภาษาอังกฤษ และได้เห็นการนำไปใช้จริง ก็จะทำให้เข้าใจได้มากขึ้น
การ ตอบตกลงภาษาอังกฤษ แบบเป็นทางการ
สำหรับคนที่ เรียนภาษาอังกฤษ เพื่อธุรกิจหรือการทำงาน ก็อาจมีบางครั้งที่เราจำเป็นต้องนำภาษาอังกฤษที่เรียนไปใช้ในแบบที่เป็นทางการ (เช่น พูดกับหัวหน้าหรือลูกค้า) และต่อไปนี้คือตัวอย่างการตอบรับหรือตอบตกลงในแบบที่เป็นทางการ
- Yes, certainly / Yes, of course
เป็นการตอบตกลงแบบสุภาพ เหมาะสำหรับการสนทนาในเชิงธุรกิจ การประชุม หรือใช้ตอบรับเมื่อมีคนขอความช่วยเหลือเราโดยแสดงออกถึงความเกรงใจ เช่น
ตัวอย่างที่ 1:
A: Could you make me a cup of tea, please?
(รบกวนช่วยชงชาให้ผมหน่อยได้ไหมครับ)
B: Yes, of course.
(ได้เลยค่ะ)
ตัวอย่างที่ 2:
A: Could you prepare the report by Friday?
(คุณช่วยเตรียมรายงานให้พร้อมภายในวันศุกร์ได้ไหม)
B: Yes, certainly.
(ได้แน่นอนครับ)
- I‘d be happy to / I‘d be glad to
เป็นการตอบรับด้วยความเต็มใจ พร้อมด้วยท่าทีเชิงบวก แสดงให้อีกคนเห็นว่าเรายินดีทำสิ่งนั้นให้จริง ๆ เช่น
A: Can you give the presentation next week?
(อาทิตย์หน้าคุณช่วยเป็นคนนำเสนองานได้หรือเปล่าครับ)
B: I’d be happy to.
(ด้วยความยินดีครับ)
- Absolutely / Definitely
แม้สองคำนี้จะพบในบทสนทนาไม่เป็นทางการด้วย แต่หลายครั้งเรื่องที่คุยกันอยู่ก็จะเป็นตัวกำหนดว่าเราใช้คำนี้ในแบบที่เป็นทางการหรือกึ่งทางการได้เช่นกัน
A: Do you support this strategy?
(คุณเห็นด้วยกับกลยุทธ์นี้หรือเปล่า)
B: Absolutely.
(เห็นด้วยแน่นอนครับ)
สังเกตว่าเรื่องที่คุยกันในตัวอย่างนี้ดูเป็นทางการมากกว่าเรื่องก่อนหน้านี้ (การไปกินมื้อเที่ยง) แต่ก็สามารถใช้คำตอบเดียวกันได้ โดยโทนเสียงและเรื่องที่คุยจะเป็นตัวบอกว่าคุยแบบเป็นทางการหรือไม่
การ ตอบตกลงภาษาอังกฤษ แม้จะดูเป็นเรื่องง่าย แต่ทุกคนคงเห็นแล้วว่ามีคำอื่น ๆ ให้เลือกใช้มากกว่าคำว่า Yes ซึ่งแน่นอนว่าการ เรียนภาษาอังกฤษ โดยเลือก คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ ที่เน้นบทสนทนาและการนำไปใช้จริงจะช่วยให้คุ้นเคยกับคำตอบรับรูปแบบต่าง ๆ ได้ดีขึ้น สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องตามสถานการณ์ ที่ Engduo Thailand มีคอร์สเรียนทั้งบทสนทนาทั่วไปและทักษะความรู้ภาษาอังกฤษที่นำไปใช้ได้จริง ทั้งการเรียนและการทำงาน