เรียนรู้วิธีพูดแทนประโยค “I Don’t Know” อย่างมืออาชีพ ทั้งสุภาพ สร้างสรรค์ และเหมาะสมกับทุกสถานการณ์ พร้อมตัวอย่างประโยคที่ช่วยเสริมความมั่นใจในบทสนทนา
ทำไมการหลีกเลี่ยงคำว่า “I Don’t Know” ตรง ๆ ถึงสำคัญ
ในการสนทนา การพูด “I don’t know” ตรง ๆ อาจทำให้เราดูเหมือนไม่มีความรู้หรือไม่มีความมั่นใจในตัวเอง นอกจากนี้ยังอาจสร้างความไม่มั่นใจให้กับผู้ฟัง โดยเฉพาะในบริบททางธุรกิจหรือการทำงาน การหลีกเลี่ยงการพูดประโยคนี้ตรง ๆ และเปลี่ยนเป็นการสื่อสารที่สร้างสรรค์มากขึ้น ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและแสดงถึงความตั้งใจในการหาคำตอบหรือแก้ไขปัญหา
ข้อดีของการหลีกเลี่ยง “I Don’t Know” แบบตรง ๆ
- แสดงถึงความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้หรือหาคำตอบ
- ช่วยเสริมภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพ
- สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ร่วมสนทนา
- ช่วยหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดว่าเราไม่สนใจหรือไม่ใส่ใจในเรื่องนั้น
วิธีพูด ‘I Don’t Know’ อย่างสุภาพ
- ใช้คำพูดที่เปิดโอกาสให้ค้นหาคำตอบ ที่แสดงถึงความตั้งใจที่จะหาคำตอบนั้น ๆ ตัวอย่างประโยค เช่น
“I’m not sure about that, but let me find out for you.”
ฉันไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่ให้ฉันไปหาคำตอบให้คุณนะ
ข้อดี – แสดงถึงความใส่ใจและความกระตือรือร้นในการหาคำตอบ
“I don’t have the information right now, but I can check and get back to you.”
ในตอนนี้ฉันยังไม่มีข้อมูล แต่ฉันจะตรวจสอบและกลับมาบอกคุณอีกครั้ง
ข้อดี – สร้างความมั่นใจให้กับผู้ฟังว่าเราจะติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง
- บอกความจริงว่าเราไม่รู้ในสิ่งใดอย่างจริงใจ แต่ยังมีความรับผิดชอบ ตัวอย่างประโยค เช่น
“That’s a great question. I’ll need to look into it.”
นั่นเป็นคำถามที่ดีมาก ฉันจะต้องไปค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้
ข้อดี – สื่อถึงความชื่นชมในคำถามและความตั้งใจที่จะค้นหาคำตอบ
“I’m not certain, but I’ll make sure to find out.”
ฉันไม่มั่นใจนัก แต่ฉันจะทำให้แน่ใจว่าได้คำตอบแน่นอน
ข้อดี – แสดงถึงความรับผิดชอบและความพยายามในการแก้ปัญหา
- เสนอคำตอบหรือแนวทางเบื้องต้น แม้ว่าเราอาจไม่แน่ใจ แต่การให้คำแนะนำหรือข้อมูลเบื้องต้นสามารถทำได้ ตัวอย่างประโยค เช่น
“I don’t have the exact details, but based on what I know, here’s what I think…”
ฉันไม่มีรายละเอียดที่แน่นอน แต่จากสิ่งที่ฉันรู้ นี่คือสิ่งที่ฉันคิดว่า…
ข้อดี – สร้างความเชื่อมั่นว่าเรามีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับหัวข้อนั้น
“I’m not completely sure, but here’s an idea to consider.”
ฉันไม่มั่นใจทั้งหมด แต่มีแนวคิดหนึ่งที่อยากให้พิจารณา
ข้อดี – เปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความคิดสร้างสรรค์
วิธีพูด ‘I Don’t Know’ ในสถานการณ์ต่างๆ
- ในการสนทนาทางธุรกิจ
“I don’t have the data on that at the moment, but I can gather it for you.”
ฉันยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ตอนนี้ แต่ฉันสามารถรวบรวมมาให้คุณได้
“Let me consult with the team and get back to you.”
ขอฉันปรึกษากับทีมก่อน แล้วจะกลับมาบอกคุณอีกครั้ง
“I haven’t had the chance to study that yet, but I’d be happy to look into it.”
ฉันยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาหัวข้อนั้น แต่ฉันยินดีที่จะค้นคว้าเพิ่มเติม
“I’m not directly involved in that project, but I can connect you with the person in charge.”
ฉันไม่ได้มีส่วนร่วมโดยตรงในโครงการนั้น แต่ฉันสามารถให้คุณกับผู้รับผิดชอบได้ติดต่อกันได้
- ในการตอบคำถามของลูกค้า
“That’s an interesting question. Let me double-check and confirm it for you.”
นั่นเป็นคำถามที่น่าสนใจ ขอฉันตรวจสอบอีกครั้งเพื่อยืนยันให้คุณ
“I’ll need to verify that information and follow up with you shortly.”
ฉันต้องตรวจสอบข้อมูลนั้นและจะติดตามผลให้คุณในไม่ช้า
“I’ll need to check with the appropriate department and get back to you with precise information.”
ฉันต้องตรวจสอบกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และจะกลับมาพร้อมข้อมูลที่ถูกต้องให้คุณ
- ในการสนทนาส่วนตัว
“I’m not sure about that, but I’d love to learn more.”
ฉันไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่ฉันอยากเรียนรู้เพิ่มเติม
“I’ll have to think about it and get back to you.”
ฉันต้องขอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน แล้วจะกลับมาบอกคุณอีกที
“I’m not familiar with that, but it sounds intriguing! Let’s find out together.”
ฉันยังไม่คุ้นเคยกับเรื่องนั้น แต่มันฟังดูน่าสนใจ! มาหาคำตอบด้วยกันเถอะ
- ในการเรียนหรือการศึกษา
“I’ll need to review my notes to give you a precise answer.”
ฉันต้องทบทวนบันทึกของฉันเพื่อให้คำตอบที่แม่นยำแก่คุณ
“I’m not familiar with that topic yet, but I’m interested in finding out.”
ฉันยังไม่คุ้นเคยกับหัวข้อนั้น แต่ฉันสนใจที่จะหาคำตอบ
ประโยคตัวอย่างที่ใช้แทน ‘I Don’t Know’
- แสดงความสนใจ
“That’s a fascinating question. I’ll need to explore it further.”
นั่นเป็นคำถามที่น่าสนใจมาก ฉันต้องสำรวจเพิ่มเติม
- เสริมความกระตือรือร้น
“I’m not sure, but I’ll make it my priority to find out.”
ฉันไม่มั่นใจ แต่ฉันจะให้เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องหาคำตอบ
- แสดงความรับผิดชอบ
“Let me confirm that and get back to you.”
ขอฉันยืนยันเรื่องนี้ก่อน แล้วจะกลับมาบอกคุณ
- ชี้แจงว่าไม่มีข้อมูลในขณะนั้น
“I’m sorry, I don’t have that information with me right now.”
ขอโทษ ฉันไม่มีข้อมูลนั้นกับตัวตอนนี้
ตัวอย่างประโยคในการพูด ‘I Don’t Know’ ให้เหมาะกับสถานการณ์
- สถานการณ์: หัวหน้าเรียกประชุมและถามข้อมูลที่คุณยังไม่มี
“I don’t have that information at the moment, but I can prepare it and share it after this meeting.”
ฉันไม่มีข้อมูลในตอนนี้แต่ฉันจะเตรียมข้อมูลและส่งให้หลังจากการประชุมนี้
- สถานการณ์: ลูกค้าถามคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
“Let me verify that with the technical team and get back to you with accurate details.”
ฉันขอตรวจสอบข้อมูลกับทีมทางเทคนิคแล้วจะกลับมาให้รายละเอียดที่ถูกต้องแก่คุณ
- สถานการณ์: เพื่อนร่วมงานขอความคิดเห็นในเรื่องที่คุณไม่เชี่ยวชาญ
“I’m not an expert on this, but I can connect you with someone who is.”
ฉันไม่เชี่ยวชาญในเรื่องนี้แต่ฉันสามารถให้คุณติดต่อกับบางคนที่เก่งในเรื่องนี้ได้
- สถานการณ์: นักเรียนถามคำถามที่คุณไม่รู้คำตอบ
“That’s a great question. Let me research it and I’ll get back to you in the next class.”
นั่นเป็นคำถามที่ดีมากเลย ให้ฉันได้ไปค้นคว้าและนำคำตอบมาให้คุณในคาบเรียนหน้า
- สถานการณ์: ถูกถามความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อที่ยังไม่ได้ศึกษา
“I haven’t had the chance to study that yet, but I’d be happy to look into it.”
ฉันยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาหัวข้อนั้น แต่ฉันยินดีที่จะค้นคว้าเพิ่มเติม
- สถานการณ์: เจ้านายถามเกี่ยวกับกำหนดการที่คุณไม่แน่ใจ
“I’m not sure about the timeline, but I can confirm it with the team and update you soon.”
ฉันไม่แน่ใจเกี่ยวกับกำหนดการ แต่ฉันสามารถยืนยันกับทีมและอัปเดตให้คุณได้ในเร็ว ๆ นี้
- สถานการณ์: เพื่อนถามคำถามเกี่ยวกับหัวข้อที่ไม่คุ้นเคย
“I’m not familiar with that, but it sounds intriguing! Let’s find out together.”
ฉันยังไม่คุ้นเคยกับเรื่องนั้น แต่มันฟังดูน่าสนใจ! มาหาคำตอบด้วยกันเถอะ
- สถานการณ์: ลูกค้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ
“I’ll need to check with the appropriate department and get back to you with precise information.”
ฉันต้องตรวจสอบกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และจะกลับมาพร้อมข้อมูลที่ถูกต้องให้คุณ
- สถานการณ์: เพื่อนร่วมงานถามถึงผลลัพธ์ของโครงการที่คุณไม่ได้ดูแล
“I’m not directly involved in that project, but I can connect you with the person in charge.”
ฉันไม่ได้มีส่วนร่วมโดยตรงในโครงการนั้น แต่ฉันสามารถให้คุณกับผู้รับผิดชอบได้ติดต่อกันได้
การเลือกใช้ประโยคที่เหมาะสมกับสถานการณ์ขึ้นอยู่กับบริบทและความสัมพันธ์กับผู้ถาม ใช้เพื่อสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือในการสื่อสาร
หากเป็นเรื่องที่เราไม่รู้ในขณะนั้น แทนที่จะพูดเพียง “I don’t know” แต่เลือกใช้ประโยคอย่างสร้างสรรค์ ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพ แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการแสดงความตั้งใจในการเรียนรู้และช่วยเหลือผู้อื่น การเลือกใช้คำพูดที่เหมาะสมและปรับให้เข้ากับสถานการณ์ สามารถช่วยให้คุณดูเป็นมืออาชีพและสร้างความประทับใจให้แก่คู่สนทนาด้วย นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบทความเพื่อ เรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร แล้วมาติดตามอ่านเพิ่มพูนความรู้ภาษาอังกฤษกันได้ที่เว็บไซต์ของเรา Engduo Thailand