หลายคนอาจจะเคยผ่านตากันมาบ้างแล้วสำหรับสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากในการใช้ภาษาอังกฤษก็คือ Helping Verbs หรือ “กริยาช่วย” นั่นเอง อย่างที่เราทราบกันดีแล้ว โดยหลักภาษาอังกฤษนั้น จะมีกริยาช่วย 3 รูปแบบด้วยกันคือ
- verb to be
- verb to do
- verb to have
วันนี้เราจะชวนผู้อ่านมาทำความรู้จักกับ Verb to be และ Verb to do ซึ่งเป็นกริยาช่วยที่หลายคนมักสับสนและใช้ผิดกันมาบ้างไม่มากก็น้อย โดยเราจะเริ่มจากหลักการพื้นฐานที่ควรรู้ พร้อมการนำไปใช้และตัวอย่างประโยค อีกทั้งไขข้อสงสัยว่ากริยาช่วยทั้งสองชนิดนี้มีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ซึ่งเราจะเปรียบเทียบกันให้เห็นชัดเจนในตารางท้ายบทความนี้ด้วย หากพร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันเลย
-
โครงสร้าง V to Be
หน้าที่ของ V to be
จะประกอบไปด้วย 2 หน้าที่หลักด้วยกัน ได้แก่
- เป็นกริยาหลัก (Main verbs) จะประกอบไปด้วย 7 ตัวด้วยกัน คือ is, am, are, was, were, be และ been เมื่อแปลเป็นภาษาไทยจะแปลว่า “เป็น, อยู่, คือ” นั่นเอง
- เป็นกริยาช่วย (Helping verbs) มีรูปเหมือน main verbs ทุกประการ ต่างกันแค่หลักการใช้ คือเมื่อ verb to be ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย เราจะไม่แปลความหมายว่า “เป็น, อยู่, คือ” เหมือนกริยาหลัก แต่ใช้เพื่อเสริมให้ประโยคหรือ Continuous tense สมบูรณ์ คือแปลว่า “กำลัง” ตามโครงสร้าง Subject + V to be + V-ing หรือ V to have + been
V to be สามารถแบ่งได้ตามกาลเวลา และประธาน ดังนี้
Present (ปัจจุบัน)
- ประธาน เอกพจน์ >> is
- ประธาน พหูพจน์ >> are
- ประธาน I >> am
Past (อดีต)
- ประธาน เอกพจน์ และ I >> was
- ประธาน พหูพจน์ >> were
be และ been
- be >> ใช้ตามหลัง To และ Modal verbs
- been >> ใช้ตามหลัง Verb to have ในรูปของ Perfect tense
ตำแหน่งของ V to be เมื่อใช้เป็น กริยาหลัก
อยู่หลังประธาน, หน้า adjectives , prepositions, nouns, pronouns และ adverbs เช่น
- She is a girl. (อยู่หน้านาม)
- Tina and Tony are craver. (อยู่หน้าคุณศัพท์)
- You are very tall. (อยู่หน้ากริยาวิเศษณ์)
- The book is on the table. (อยู่หน้าบุพบท)
- These roses are yours (อยู่หน้าสรรพนาม)
ตำแหน่งของ V to be เมื่อใช้เป็น กริยาช่วย
โครงสร้างคือ V to be +V-ing ในรูปของ Continuous tense
1) ทำหน้าที่เป็น Adjective (แปลว่าน่า…)
ตัวอย่างเช่น It is an interesting show. (มันเป็นโชว์ที่น่าสนใจ)
2) present continuous tense (is/am/are+V-ing) กำลังทำในปัจจุบัน
ตัวอย่างเช่น I am working now (ฉันกำลังทำงานอยู่ตอนนี้)
3) past continuous tense (was/were+V-ing) กำลังทำในอดีต
ตัวอย่างเช่น She was singing at this time yesterday. (เมื่อวานในเวลานี้ หล่อนกำลังร้องเพลง)
4) future continuous (will+be+V-ing) คาดการณ์ในอนาคต
ตัวอย่างเช่น Peter will be travelling around the world next year. (ในปีหน้า ปีเตอร์กำลังจะไปท่องเที่ยวรอบโลก)
5) present perfect continuous (have/has +been +V-ing) กำลังทำต่อเนื่องในปัจจุบัน
ตัวอย่างเช่น I have been working homework since yesterday. (ฉันทำการบ้านมาตั้งแต่เมื่อวาน) – สื่อว่าปัจจุบันก็ยังทำอยู่ ยังไม่เสร็จ
6) past perfect continuous (had+been+V-ing) กำลังทำต่อเนื่องในอดีต
ตัวอย่างเช่น Mom had been cooking when it started raining. (แม่กำลังทำอาหารอยู่เมื่อตอนที่ฝนตก)
7) future perfect continuous (will+have+been+V-ing) กำลังทำต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่งในอนาคต
ตัวอย่างเช่น I will have been cleaning the room for an hour tomorrow morning (พรุ่งนี้เช้าฉันจะทำความสะอาดห้องอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ชั่วโมง)
8) V to be + Past participle (V3 – กริยาช่อง 3) ทำหน้าที่เป็น Adjective (แปลว่ารู้สึก…)
ตัวอย่างเช่น I’m glad to meet you (ฉันรู้สึกดีใจที่ได้พบคุณ)
Engduo Thailand
ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย
-
โครงสร้าง Verb to do
หน้าที่ของ V to do
จะประกอบไปด้วย 2 หน้าที่หลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่
- เป็นกริยาหลัก (Main verbs) จะประกอบไปด้วย 4 ตัวด้วยกัน คือ do, does, did และ done เมื่อแปลเป็นภาษาไทยจะแปลว่า “ทำ” นั่นเอง
- เป็นกริยาช่วย (Helping verbs) มีรูปเหมือน main verbs ทุกประการ ต่างกันแค่หลักการใช้ คือเมื่อ verb to do ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย เราจะไม่แปล แต่หน้าที่คือมาเสริมให้ประโยคหรือ Simple forms สมบูรณ์ ความหมายคือ แสดงถึงการกระทำที่เป็นปกติ นิสัย หรือกิจวัตร
โดยปกติแล้วรูป Simple forms จะไม่มีกริยาช่วย จึงจำเป็นจะต้องใช้ V to do เข้ามาช่วยในการสร้างประโยคคำถาม, ประโยคปฏิเสธ และ ประโยคคำสั่ง ดังนี้
-
ประโยคคำถาม
โครงสร้างคือ
V to do + Subject + v1+?
โดยปกติจะเป็นคำถามประเภทเจาะจงคำตอบว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” (yes/no question) เช่น
- Do you love me? (คุณรักฉันไหม?)
- Does she go to school? (หล่อนไปโรงเรียนใช่ไหม?)
หรือใช้คู่กับ Question words (what / where / who / when / which / why และ how) เช่น
- Where did he go? (เขาไปไหนมา)
-
ประโยคปฏิเสธ
โครงสร้างคือ
Subject + V to do + not + V1
เช่น
- You do not love me. (คุณไม่ได้รักฉัน)
- She does not go to school. (หล่อนไม่ได้ไปโรงเรียน)
- He did not go home. (เขาไม่ได้กลับบ้าน)
ข้อสังเกต รูปย่อคือ
- do not = don’t
- does not = doesn’t
- did not = didn’t
-
ประโยคคำสั่ง
โครงสร้างคือ
Do + not + V1
เช่น
- Do not close the door. (อย่าปิดประตู)
หลักการใช้เพิ่มเติมที่ควรรู้
- ประโยคที่มี V to do ในประโยค กริยาแท้ในประโยคต้องเป็น V1 (Infinitive) เสมอ
- V to do สามารถแบ่งได้ตามกาลเวลา และประธาน ดังนี้
Present (ปัจจุบัน)
- ประธาน เอกพจน์ >> Does
- ประธาน พหูพจน์ >> Do
Past (อดีต)
ทั้งประธาน เอกพจน์และพหูพจน์ >> did
ตารางเปรียบเทียบระหว่าง V to be และ V to do |
||
|
V to be | V to do |
รูปทั้งหมด |
is/am/are/was/were/be/been | do/does/did |
รูปปัจจุบัน |
is/am/are | do/does |
รูปอดีต | was/were |
did |
ประธานเอกพจน์ | is/was |
does/did |
ประธานพหูพจน์ | are/were |
do/did |
ใช้กับ |
present continuous tense,
past continuous tense, future continuous, present perfect continuous, past perfect continuous, future perfect continuous |
ใช้ในการสร้างประโยคคำถาม, ประโยคปฏิเสธ และ ประโยคคำสั่ง ใน Simple Forms, Present Simple, Past Simple
|
ตำแหน่ง | หลัง : ประธาน
หน้า: verbs, adjectives, prepositions, nouns, pronouns และ adverbs |
– หน้าประธานในประโยคคำถาม – หลังประธาน+not ในประโยคปฏิเสธ |
สรุป
V to be และ V to do ทำหน้าที่เป็นได้ทั้งกริยาแท้และกริยาช่วย กล่าวคือมีหน้าที่ทางไวยากรณ์เหมือนกัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือหลักการใช้และตำแหน่งในบางกรณี เราจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาให้เข้าใจ เพื่อความถูกต้องทางหลักภาษาและสามารถสื่อสารถึงผู้อ่านหรือผู้ฟังให้เข้าใจตรงกัน
และสุดท้ายทางเราสถาบันสอนภาษาอังกฤษ Engduo Thailand ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนทุกคนที่กำลังฝึกฝนภาษาอังกฤษนะครับ สำหรับใครที่สนใจการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสื่อสารทั่วไป หรือใช้เพื่อการทำงาน หรือต้องการฝึกภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก เรามีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวที่สามารถตอบโจทย์ผู้เรียนได้ทุกรูปแบบนะครับ และยังสามารถออกแบบคอร์สได้ตามต้องการอีกด้วย ถ้าเพื่อนๆสนใจสามารถติดต่อเราได้เลยนะครับ
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม
- สอบ IELTS ก่อนสอบต้องรู้อะไรบ้าง และต้องเตรียมตัวอย่างไร หาคำตอบพร้อมกันได้ที่นี่
- IDIOMS คืออะไร ? มารู้จัก และศึกษาวิธีการใช้ idioms กัน