ประโยคคำถามในภาษาอังกฤษมีหลายรูปแบบ ที่เราคุ้นชินกันก็จะมีที่ขึ้นต้นด้วยกริยาช่วย verb to be, verb to do หรือ has/have คำตอบต้องเป็น yes กับ no หรือประโยคคำถามจำพวก wh-question ที่ต้องการคำตอบว่า ใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร ซึ่งยังมีประโยคคำถามอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ เราเรียกว่า Question Tag ที่นำหน้าด้วยประโยคบอกเล่า แต่มีส่วนท้ายที่เป็นคำถาม จึงทำให้ประโยคนี้กลายเป็นประโยคคำถามไป วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่อง การใช้ Question Tag กัน
ประโยคคำถาม Question tag คืออะไร
ประโยคคำถามแบบ Question tag คือ ประโยคคำถามประเภทหนึ่งที่โครงสร้างนำด้วยประโยคบอกเล่าทั่วไป จากนั้นตามด้วย comma และ วลีสั้น ๆ ที่บ่งบอกถึงคำถาม แล้วตามด้วยเครื่องหมายคำถาม โดยคำตอบของประโยค Question tag จะเป็น yes / no เหมือนกับประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย verb ช่วย เราสามารถได้ยิน Question tag ได้จากประโยคสนทนาทั่วไปในชีวิตประจำวัน
ตัวอย่างประโยค Question tag เช่น
You love to eat hotdog, don’t you?
She will come to class tomorrow, won’t she?
หลักการสร้างประโยค Question tag
สำหรับประโยค Question tag มีหลักในการสร้างประโยค โดยต้องอาศัยความเข้าใจ ซึ่งหากเข้าใจหลักการแล้วก็ไม่ยากเลย คือ
- ถ้าประโยคส่วนหน้าเป็นประโยคบอกเล่า question tag ต้องเป็นปฏิเสธ เช่น
You are working for ABCMA company, aren’t you?
- ถ้าประโยคส่วนหน้าเป็นประโยคปฏิเสธ question tag ต้องเป็นบอกเล่า
She doesn’t have a long hair, does she?
และส่วนของ Question Tag นั้น เมื่อใส่เครื่องหมาย comma แล้ว ตามด้วย verb ช่วยของประโยค (ในรูปบอกเล่าหรือปฏิเสธ แล้วแต่ส่วนหน้า) จากนั้นตามด้วยประธานของประโยคที่อยู่ในรูปของคำสรรพนาม เช่น Susan wants to go swimming today, doesn’t she?
Question tag ใช้ doesn’t เป็น verb ช่วยที่สอดคล้องกับประธาน และอยู่ในรูปปฏิเสธเนื่องจากประโยคส่วนหน้าเป็นบอกเล่า จากนั้นตามด้วยประธานคือ Susan แต่ไม่พูด Susan ซ้ำ ให้ใช้คำสรรพนามแทน Susan ก็คือ she
ข้อควรจำ สำหรับ การใช้ Question tag
- กรณีประโยคส่วนหน้า มี Verb to have แล้ว have หรือ has นั้นแปลว่า “มี” question tag ส่วนท้ายจะใช้ has/have หรือใช้ verb to do มาช่วย ได้ทั้ง 2 แบบ แต่ถ้า Verb to have ในประโยคส่วนหน้าไม่ใช่ Verb ช่วย (ในประโยค present perfect, etc.) และไม่ได้แปลว่า “มี” แต่แปลอย่างอื่น กรณีนี้ต้องใช้ Verb to do มาช่วยในส่วนของ question tag เท่านั้น เช่น
You have two daughters, haven’t you? หรือ You have two daughters, don’t you?
แต่ You have dinner with you ex-boss, don’t you? have ในที่นี้แปลว่า “กิน”
รวมถึง have to / has to ด้วยที่ question tag ต้องใช้ verb to do มาช่วย เช่น
She has to finish her homework within 3 o’clock today, doesn’t she?
- Question tag ส่วนท้ายถ้าเป็นปฏิเสธ ต้องใช้รูปย่อเสมอ ไม่ใช้รูปเต็ม เช่น
She has to finish her homework within 3 o’clock today, doesn’t she? (ไม่ใช้ does not she)
- กรณีของ I am เนื่องจาก question tag ส่วนท้ายเป็นปฏิเสธ ต้องเป็น am not I แต่ am not ไม่มีรูปย่อ จึงให้ใช้เป็น aren’t I แทนเสมอ
- กรณีของ Verb ช่วยอื่น ๆ เช่น can/could/ may/ might/ will/ shall/ ought to/ would/ should สามารถใช้ Verb เหล่านี้ในส่วน question tag ได้เลย เช่น
I shouldn’t go to your birthday party tomorrow, should I?
- ในประโยคคำสั่งหรือขอร้อง question tag ให้ใช้ will you หรือ won’t you เนื่องจากประธานที่ละไว้มักหมายถึง you
- หากประโยคขึ้นต้นด้วย This is / That is ให้ใช้ question tag ในรูป isn’t it และหากเป็น These are / Those are ให้ใช้ question tag ในรูป aren’t they
- กรณีประโยคส่วนหน้าที่คำที่บ่งบอกถึงความเป็นปฏิเสธในตัว เช่น rarely, hardly, seldom, none, nobody, few, little, never ส่วนของ question tag ต้องเป็นบอกเล่า แม้ประโยคส่วนท้ายจะเป็นประโยคบอกเล่าก็ตาม ให้ดูที่ความหมาย เช่น
None of workers are unhappy, are they?
- ประโยคที่มีประธาน คือ everyone, everybody, everyday, everything, nobody, anybody ในส่วน question tag ท้าย ให้ใช้ pronoun ว่า “they” เช่น
Everyone loves Jackson Wang, doesn’t they?
- สำหรับประโยคเชิงซ้อนที่มีประโยคหลักและประโยคย่อย ให้ใช้ question tag โดยอิงประธานและกริยาจากประโยคหลัก เช่น
He said he would come to my party, didn’t he?
คำตอบของประโยคคำถาม Question Tag
คำตอบของประโยคคำถาม Question Tag ให้ดูจากประโยคส่วนหน้าแล้วตอบ yes/no ตามนั้น
- ถ้าประโยคหลักเป็นบอกเล่า แล้วเราเห็นด้วย ให้ตอบ yes ถ้าเราไม่เห็นด้วยให้ตอบ no เช่น
He said he would come to my party, didn’t he?
Yes, he did. หรือ No, he didn’t.
- ถ้าประโยคหลักเป็นปฏิเสธ แล้วเราเห็นด้วย ให้ตอบ no ถ้าเราไม่เห็นด้วยให้ตอบ yes
I shouldn’t go to your birthday party tomorrow, should I?
No, you shouldn’t. หรือ Yes, you should.
เราทราบถึงโครงสร้าง และวิธีการสร้างประโยคคำถามแบบ Question tag กันไปแล้ว อาจมีหลายท่านสงสัยว่า แล้วเมื่อไหร่ที่เราควรใช้ประโยคแบบนี้ ที่จริงประโยค question tag สามารถใช้ได้ทั่วไปในประโยคสื่อสารในชีวิตประจำวันของเรา แต่หากจะดูกันให้ละเอียดถึงวิธีการใช้ กรณีที่ผู้พูดต้องการถามผู้ฟังแบบขอให้แสดงความคิดเห็น ไม่ได้ตั้งใจจะถามเป็นคำถามตรง ๆ ก็ใช้ประโยค question tag ได้ แนะนำให้ฝึกฝนเพิ่มเติมจากการการอ่านรูปประโยคสนทนาบ่อย ๆ รวมถึงการ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ก็จะทำให้เข้าใจมากขึ้น และนำไปใช้ในการสนทนาภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว
ทั้งนี้ หากใครสนใจสามารถ สอบถามราคาเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว กับ Engduo Thailand สถาบันสอนภาษา ที่มีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษใม่ว่าจะเป็นเพื่อการสื่อสาร การสัมภาษณ์งาน หรือการสอบ IELTS หรือเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ได้เลยครับ
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม
Engduo Thailand
คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตัวต่อตัว พูดได้ชัวร์ ใช้ได้จริง
Engduo Thailand
ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย
ที่มาข้อมูล
- https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/77634
- http://elsd.ssru.ac.th/pornsirin_ha/pluginfile.php/95/course/summary/The%20use%20of%20question%20tag.pdf
- https://www.stou.ac.th/schools/sla/b.a.english/d4lp/14212/Module7/content/content01.html