คำศัพท์ภาษาอังกฤษมีจำนวนมากมาย คนที่เรียนภาษาอังกฤษมานานตั้งแต่ยังเล็กอาจรู้สึกว่าเรียนเท่าไหร่ก็รู้ไม่หมด อันนี้น่าจะเป็นเรื่องจริง อีกอย่างในเรื่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษคือคำศัพท์ที่มีความหมายเหมือนกัน มีอยู่หลายคำให้เลือกใช้ และแบบที่เป็น Formal and informal โดยเราควรเลือกใช้ให้เหมาะสม เพราะคำศัพท์บางคำเป็นภาษาทางการ ส่วนคำศัพท์ที่มีความหมายเหมือนกันแต่อาจเหมาะเป็นภาษาพูดหรือภาษาเขียนเฉพาะในกลุ่มเท่านั้น
คำศัพท์ Formal and informal คืออะไร
อย่างที่เกริ่นไว้ช่วงต้นเรื่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายเหมือนกัน แต่ในแต่ละบริบทควรหยิบยกไปใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับกาลเทศะ บางคำเป็นภาษาที่ใช้เป็นทางการ หรือ Formal เหมาะกับใช้เขียนบทความเพื่อลงหนังสือพิมพ์ ผลงานวิจัย หนังสือ เอกสารวิชาการ ในขณะที่คำศัพท์บางตัวก็เหมาะกับการใช้ทั่วไปแบบไม่เป็นทางการ หรือ Informal เช่น สื่อสารในกลุ่ม ครูสอนนักเรียน หรือเพื่อนสื่อสารกัน
Formal vs Informal เช่นคำศัพท์อะไรบ้างที่ใช้บ่อย ๆ
สำหรับตัวอย่างของคำศัพท์ที่มีความหมายเหมือนกัน แต่คำหนึ่งเหมาะกับ formal อีกคำเหมาะกับ informal เช่น
ask/enquire
ask for/request
book/reserve
check/verify
get/receive
give/provide
help/assist
need/request
be sorry/apologize
bad/poor หรือ ineffective
big/large หรือ significant
say hello to/give my regards to
tell/inform
choose/select
begin หรือ start / commence
let/allow
promise/assure
go up/increase
go down/decrease
set up/establish
look at/examine
find out/discover
put off/postpone
stand for/represent
go against/oppose
get in touch with/contact
get back/return
deal with/handle
show/demonstrate
keep/retain
free/release
fill in/substitute
end/terminate
in the end/finally
mad/insane
smart/intelligent
wrong/incorrect
tough/difficult
ตัวอย่างประโยคที่ใช้คำศัพท์ทางการ และ ไม่ทางการ
Formal => How people can cope up with problem when they are in a very tough situation.
Informal => How people can handle problem when they are in a very difficult situation.
Formal => It is believed that numbers of people killed were reported wrongly.
Informal => It is believed that numbers of people killed were reported incorrectly.
Formal => Prime Minister was very smart to say that it was Cabinet collective responsibility.
Informal => Prime Minister was very intelligent to say that it was Cabinet collective responsibility.
Formal => This would help improve the situation.
Informal => This would assist to improve the situation.
การใช้ Formal vs Informal ในภาษาอังกฤษ (นอกเหนือจากคำศัพท์)
Formal vs Informal อาจไม่ได้หมายถึงเฉพาะคำศัพท์เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการใช้ภาษาอังกฤษทั่วไปด้วย โดยควรใช้ให้ถูกต้องเหมาะสมกับโอกาส เช่น
- ในภาษาอังกฤษแบบทางการ จะนิยมเขียนตัวเต็ม ไม่ย่อ แต่ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ เราสามารถใช้ตัวย่อได้ เช่น
The results from research can’t be used for future studies. ไม่ควรใช้ can’t ในภาษา Formal
The results from research cannot be used for future studies.
หรือ
Many people don’t know that gold card holders must not be charged for medical treatment in any case.
Many people do not know that gold card holders must not be charged for medical treatment in any case.
- การใช้ภาษาอังกฤษแบบทางการ หรือ Formal ยังควรหลีกเลี่ยงการใช้ phrasal verbs ต่าง ๆ ด้วย เช่น
You can pull over your car here. คำว่า pull over ในที่นี้หมายถึง จอดรถ เหมาะกับใช้ในภาษา informal
You can park your car here. ในภาษาทางการ formal ให้ใช้ park จะเหมาะสมกว่า
หรือ
They didn’t get back home last night. ไม่ควรใช้ในภาษาทางการ ให้ใช้เป็น
They did not return home last night.
- สำนวน คำสแลง หรือภาษาพูด เราจะไม่ใช้ใน Formal เช่น
It’s raining cats and dogs. cats and dogs เป็นสำนวนหมายถึง ฝนตกหนักแบบไม่ลืมหูลืมตา
It’s raining heavily. ในภาษา formal ให้ใช้ heavily เป็น adverb ขยายเหตุการณ์ฝนตกว่าตกหนักมากจะเหมาะสมกว่า
หรือ
I am very busy and work twenty-four seven. Twenty-four seven เป็นสำนวนหมายถึงทั้งวัน หรือ ตลอดเวลา ไม่นิยมใช้ในภาษาทางการ ใช้ในภาษาพูดหรือสื่อสารในระหว่างเพื่อนได้ กรณีต้องการใช้เป็นภาษาทางการ ควรเปลี่ยนเป็น I am very busy and work all day.
- ภาษาทางการจะไม่นิยมใช้ประธานบุรุษที่ 1 ที่เป็น I กับ We แต่จะเลี่ยงเปลี่ยนรูปประโยคไปแทน เช่น
We believe that government measure can improve economic growth. ไม่ควรใช้ I หรือ We ในประโยคทางการ ให้เปลี่ยนรูปประโยคไปเป็น
It is believed that government measure can improve economic growth. แบบนี้จะเหมาะสมกว่า
- ไม่ควรใช้อักษรย่อเฉย ๆ ในเอกสารทางการ แต่หากต้องการใช้จริง ๆ ควรมีวงเล็บตัวเต็มกำกับตามหลังไว้ด้วย เช่น เล่มของหนังสือ ให้วงเล็บ (Volume) ไว้ด้วย หรือ E-mail ให้วงเล็บ (Electronic mail) เป็นต้น
การทำความรู้จัก formal กับ informal ทั้งเรื่องคำศัพท์ และรูปประโยคที่ใช้ จะทำให้เราใช้ภาษาอังกฤษได้เก่งและถูกต้องมากขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้เพื่อการสอบ แนะนำศึกษาตัวอย่างหลาย ๆ แบบ หรือ คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ และควรจำและฝึกฝนคำศัพท์ต่าง ๆ ให้มากที่สุด
สำหรับใครที่กำลังคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์หรือกำลังมองหาครูต่างชาติ สอนภาษาอังกฤษเพื่อเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว สามารถดูรายละเอียด Engduo Thailand สถาบันภาษา ที่มีคอร์สให้เลือกมากมาย ทั้งการสื่อสารและการทำงาน
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม
- เทคนิค(ไม่)ลับฉบับจำง่าย กับ เดือนภาษาอังกฤษ ทั้ง 12 เดือน
- รู้จัก Synonyms เพื่อการใช้ศัพท์ที่หลากหลาย
Engduo Thailand
คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตัวต่อตัว พูดได้ชัวร์ ใช้ได้จริง
Engduo Thailand
ค้นหาคอร์สเรียนที่เหมาะกับคุณ ติดต่อเราเลย
ที่มาข้อมูล
- https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/60387/-laneng-lan-
- http://acad.vru.ac.th/acad_guide_2559/guide_03_pdf
- https://plan.rmutsb.ac.th/plan/data_information/file/4_IR_614.pdf